ฉะเชิงเทรา – รถบรรทุก 2 คัน ถูก ตร.เรียกจอดช่วยสกัดรถพ่วง 18 ล้อต้องสงสัย “ขับเสพ” หลังหลบหนีการถูกเรียกตรวจออกมาจากชานเมืองกรุง แต่ถูกโชเฟอร์คลั่งซิ่งหนีฝ่าช่องกลางระหว่างคันหลบหนีไปได้ ด้านพลเมืองดีพ้อทั้งรถถูกชนพังได้รับความเสียหายทั้งยังทำให้เสียเวลา ขณะ จนท. จร.จากส่วนกลางที่ขับไล่ติดตามมาล่องหน ส่วนคนขับรถบรรทุกยักษ์ใหญ่ไม่สนใจใครหลังแหวกด่านฝ่าการสกัด หนีไปได้เข้าหมกตัวซุกอยู่ในอู่ใหญ่ชื่อดังประจำเมือง
วันที่ 22 ธ.ค.65 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวีระ สุขเจริญ อายุ 53 ปี ชาวหมู่ 3 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา คนขับรถบรรทุกหกล้อแบบตู้ทึบว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบสังกัด แต่มีลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก จร.กลาง ใน กทม. ซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาจำนวน 2 นาย ได้โบกเรียกให้ตนเองหยุดรถ ที่บริเวณเลยจากทางสามแยกบางพระซึ่งเป็นเส้นทางที่กำลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยก และขยายถนนสายเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา (365) มาประมาณ 400 เมตร พื้นที่ ม.5 ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
โดยตนได้ถามกลับไปว่าตนทำความผิดอะไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาเรียกให้จอดหยุดรถนั้น ได้ตอบกลับมาว่าไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่จะขอให้ช่วยหยุดรถขวางเส้นทาง เพื่อที่จะสกัดรถบรรทุกดินแบบกึ่งพ่วง 18 ล้อไว้ให้หน่อยเนื่องจากต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่ขับเสพ (เสพยาเสพติด) ซึ่งตนจึงได้ให้ความร่วมมือต่อทางเจ้าหน้าที่ หยุดรถอยู่บนช่องทางด้านขวาสุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายยังได้ไปเรียกรถพ่วงบรรทุกน้ำแบบสองตอน ซึ่งอยู่ทางเลนด้านซ้ายให้จอดขวางเส้นทางเอาไว้ด้วย
แต่เป็นตำแหน่งที่จอดเหลื่อมกันเลยจากรถคันที่ตนขับมาไปเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ยังมีช่องว่างระหว่างคันอยู่บ้าง และเมื่อรถบรรทุกคันต้องสงสัยมาถึงได้ขับฝ่าสัญญาณมือเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายที่ต้องการสกัดเพื่อเรียกตรวจ โดยได้ขับแหวกช่องว่างระหว่างคันที่รถจอดเหลื่อมกันอยู่บนเส้นทางทั้ง 2 ช่องไปได้อีก โดยได้เฉี่ยวชนเข้าที่แผงยึดกระจกมองข้องซ้ายด้านหน้ารถของตนจนได้รับความเสียหาย และยังเบียดบังโคลนหน้าซ้าย และบันไดซ้ายจนได้รับความเสียหายไปด้วย นายวีระ กล่าว
ขณะที่นายนาวิน ฉ่อสูงเนิน อายุ 45 ปี ชาว ต.บุ่งขี้เหล็ก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา คนขับรถพ่วงบรรทุกน้ำที่ถูกเรียกจอดด้วยนั้น กล่าวว่า รถคันที่ตนขับมาได้รับความเสียหายที่กันชนหลังด้านขวา ที่พังยุบไปทั้งแถบจนถึงถังน้ำสแตนเลสด้านบนตัวรถมีรอยบุบได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีซุ้มบังโคลนหลังด้านขวาได้รับความเสียหายไปด้วย โดยที่นายนาวิน พร้อมนายวีระ ยังระบุว่า หลังเกิดเหตุรถบรรทุกกึ่งพ่วง 18 ล้อบรรทุกดินขับฝ่ารถทั้ง 2 คันไปแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดไปที่ยางล้อรถด้วย ต่อหน้าตนเองที่เห็นเหตุการณ์ตลอดและได้ถ่ายภาพป้ายทะเบียนพ่วงหลังไว้ได้ แต่คนขับรถยังไม่ยอมหยุด โดยได้ขับเลยไปที่ยูเทิร์นกลับรถที่บริเวณจุดกลับรถด้านหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. ซึ่งอยู่เลยไปจากจุดเกิดเหตุเพียงประมาณ 200 เมตร และได้นำรถขับเข้าไปจอดแอบซุกอยู่ภายในอู่รถบรรทุกของผู้มีชื่อเสียงในพื้นที่รายหนึ่ง ที่บริเวณถนนด้านหลังปั้มน้ำมันแห่งดังกล่าว ริมเส้นทางมุ่งหน้าไปยังวัดท่าอิฐ และเข้าไปกลบดานหลบอยู่ภายในห้องพักโดยไม่ยินยอมออกมาภายนอก แม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเข้าไปเรียกแล้วก็ตาม
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ทราบว่าใครจะมาเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวรถพังเสียหายและยังทำให้พวกตนเสียเวลาด้วย แต่โชคยังดีที่รถคันที่ตนขับมาทั้งสองคันนั้นได้มีการทำประกันภัยเอาไว้ ซึ่งถ้าหากเป็นรถที่ไม่ได้มีการทำประกันภัยไว้จะทำกันอย่างไร ใครจะมาเป็นผู้รับผิดชอบซ่อมรถให้ คนขับรถบรรทุกทั้งสองคันกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เรียกให้ทางฝ่ายผู้เสียหายเข้าไปพบพนักงานสอบสวนยังที่โรงพัก พร้อมกับระบุต่อผู้ขับขี่รถบรรทุกว่าเป็นเหตุการณ์ประมาทร่วม แต่ไม่ได้มีการเรียกทางฝ่ายคู่กรณีที่ขับรถฝ่ากลางรถบรรทุกทั้งสองคันไปมาสอบสวนด้วย ทั้งยังระบุว่ายังไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานใดเข้ามาติดตามคนร้ายในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: