กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยว ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามแผนบูรณาการ ให้ประชาชนเดินทางอย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ ที่ห่างไกลอุบัติเหตุ
วันที่ 30 ธันวาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ ขอให้ประชาชนระมัดระวัง ดูแลตนเองให้ดี ให้ปลอดภัยทั้งจากการเดินทางโดยยานพาหนะต่าง ๆ รวมถึงปลอดภัยจากโควิด-19 ซึ่งขณะนี้แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยดีขึ้นแล้ว แต่ก็ขอให้ประชาชนไม่ประมาท ควรป้องกันตนเองให้ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องออกเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่จะใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เครื่องบิน รถโดยสารสาธารณะ หรือขณะที่อยู่ในสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก เช่น สถานีขนส่ง ตลาด สถานที่ท่องเที่ยวที่แออัด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อ เพื่อร่วมมือกันป้องกันไม่ให้โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดใหญ่ซ้ำอีก
นายกรัฐมนตรี ยังกำชับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น อำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน ตลอดจนให้คำแนะนำ และกวดขันพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและระดับพื้นที่ นำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ พ.ศ.2566 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบไปปฏิบัติ ภายใต้แนวคิด ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
“สำหรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่สำคัญ ที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำไปปฏิบัติ เช่น (1) จัดตั้งศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ระดับส่วนกลาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ (2) การลดปัจจัยเสี่ยงโดยดำเนินการมาตรการเชิงรุก ได้แก่ การประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน มาตรการเคาะประตูบ้าน ด่านครอบครัว ด่านชุมชน และการจัดกิจกรรมทางศาสนา ‘1 อำเภอ 1 กิจกรรม’ รวมไปถึงสำรวจ ตรวจสอบลักษณะกายภาพของถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ และปรับปรุงแก้ไขให้มีความปลอดภัย และจัดทำแผนอำนวยความสะดวกการจราจร รวมทั้ง กำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับรถโดยสาร และพนักงานประจำรถ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด และการตรวจสอบสภาพรถตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนเข้มงวดกวดขันกับผู้ใช้รถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกิน และรถบรรทุกขนาดเล็กที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย และเข้มงวดกับรถตู้ส่วนบุคคลหรือรถเช่าของผู้ประกอบการธุรกิจให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย อีกทั้งให้มีการเตรียมการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบการติดต่อสื่อสาร การประสานงาน และการแบ่งมอบพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินในเครือข่ายและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน เป็นต้น” นายอนุชา กล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ พบปะนักเรียนจากทั่วอีสาน ชูโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน" เพิ่มโอกาสชีวิต
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
- ภูเก็ตคึกคัก นทท.ทั้งชาวไทย-ต่างชาติแห่ถ่ายรูปลุงซานต้า-น้องซานตี้ แลนด์มาร์คกลางเมือง ต้อนรับคริสต์มาส-ปีใหม่ 2568
- นายกฯ "อิ๊ง" เปิดงานออนซอนกลองยาวชาววาปี สานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: