กรุงเทพฯ – ศปถ.ห่วงใช้ความเร็วสูง อาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ย้ำจังหวัดควบคุมการใช้ความเร็ว และประเมินความพร้อมผู้ขับขี่ หลังพบ ‘ขับรถเร็ว’ เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ประกอบกับถนนคล่องตัวขึ้น
วันที่ 3 มกราคม 2566 ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2566 วันที่ 5 ของการรณรงค์ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ เกิดอุบัติเหตุ 294 ครั้ง บาดเจ็บ 295 คน เสียชีวิต 40 คน
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม ในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65-2 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,960 ครั้ง บาดเจ็บรวม 1,938 คน เสียชีวิตรวม 263 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี แถลงว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ประจำวันที่ 2 มกราคม 2566 ยังเป็นขับรถเร็ว ร้อยละ 36.73 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.13 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ยังเป็นรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.40 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 79.59 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.41 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.31 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เวลา 00.01-01.00 น. ร้อยละ 8.50 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 18.51
เรียกตรวจยานพาหนะ 397,459 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 57,635 ราย ความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 16,783 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 16,320 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 7,394 ราย
♦จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด นครศรีธรรมราช (14 ครั้ง)
♦จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด นครศรีธรรมราช (17 คน)
♦จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ศรีสะเกษ (5 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม ช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65-2 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,960 ครั้ง บาดเจ็บรวม 1,938 คน เสียชีวิตรวม 263 คน
♦จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด นครศรีธรรมราช และสกลนคร (จังหวัดละ 65 ครั้ง)
♦จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด นครศรีธรรมราช (70 คน)
♦จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด เชียงราย (13 คน)
จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา ยะลา สตูล และสุโขทัย
วันนี้ คาดว่าเส้นทางสายหลักจะยังคงมีปริมาณการจราจรหนาแน่นในบางจุด ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนต่อเนื่อง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครเข้มข้นการปฏิบัติงานของจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางลัด และทางเลี่ยงเมือง เพื่ออำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง รวมถึงคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตลอดจนกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจกวดขันเรียกตรวจยานพาหนะเพื่อชะลอความเร็วรถและประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน
อธิบดี ปภ. ระบุว่า วันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยวแล้ว ขณะที่ยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างการเดินทาง จากการตรวจสอบสภาพการจราจร พบว่าหลายเส้นทางปริมาณรถเริ่มเบาบาง โดยเฉพาะถนนสายหลักของจังหวัดใหญ่ และเส้นทางจากภูมิภาคต่าง ๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง จึงเน้นย้ำให้จังหวัดเข้มงวดควบคุมการใช้ความเร็ว ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง การปฏิบัติงานของจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางลัด และทางเลี่ยงเมือง เพื่ออำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง ตลอดจนกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ กวดขันเรียกตรวจยานพาหนะเพื่อชะลอความเร็วรถ และประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน
พร้อมฝากผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
หากประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุ ทางไลน์ ‘ปภ.รับแจ้งเหตุ1784’ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
