ตรัง เปิดคลิปกระบะ – เก๋ง ต่างถิ่น ชนกันสนั่นกลางแยกตลาดชม อ.รัษฎา รถกระเด็นชนซ้ำรถชาวบ้านข้างถนน เจ็บระนาว 12 ราย สาเหตุขับมาด้วยความเร็ว ไม่คุ้นเส้นทาง และแยกดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อย ชาวบ้านเรียกร้องขอสัญญาณไฟแดง
วันที่ 3 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สี่แยกตลาดชม ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อ ต.ควนเมา กับ ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง หลังจากมีการแชร์คลิปวิดีโอ ภาพเหตุการณ์รถกระบะ และ รถยนต์เก๋ง ชนประสานงากันอย่างจัง มีผู้บาดเจ็บสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อย รวม 12 ราย และรถที่ประสบเหตุยังกระเด็นมาชนกับรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่หน้าบ้าน ได้รับความเสียหาย 1 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรัษฎาเป็นการเร่งด่วน
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มกราคม 66 เวลาประมาณ 13.30 น. เมื่อรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แผ่นป้ายทะเบียน กษ 2333 ภูเก็ต ซึ่งมีนายอนุพงษ์ ลิสกุล เป็นผู้ขับขี่ มาด้วยกันรวม 3 คน ขับมาจากสี่แยกไฟแดงควนเมา มุ่งหน้าบ้านเขาไพร ซึ่งเป็นถนนสายรอง ขับมาด้วยความเร็วสูง มาถึงบริเวณสี่แยกตลาดชม จนเกิดเหตุพุ่งชนกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน แผ่นป้ายทะเบียน ขง 839 สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีนางสาววิลาสินี ทรรพคช เป็นผู้ขับขี่ มาพร้อมญาติรวม 9 คน ซึ่งวิ่งมาเส้นทาง อ.รัษฎา-อ.ห้วยยอด ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ทำให้ทั้งรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะกระเด็นไปอัดก๊อปปี้กับรถยนต์กระบะ ป้ายทะเบียน บพ 4651 ตรัง ของชาวบ้านที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้รับความเสียหาย และทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อย รวม 12 ราย หลังเกิดเหตุการณ์ชาวบ้านได้วิ่งมาดูที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก และแจ้งเจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลรัษฎาอย่างเร่งด่วน โดยล่าสุดผู้บาดเจ็บมีอาการปลอดภัยแล้ว และยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกจำนวน 3 ราย
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านบริเวณสี่แยกตลาดชม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าจุดนี้มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะไม่มีสัญญาณไฟแดง เส้นจราจรไม่ชัดเจน ทำให้คนต่างพื้นที่ ที่ไม่คุ้นชินเส้นทาง มองไม่เห็นเป็นสี่แยกทำให้ต่าง ใช้ความเร็วในการขับขี่เพราะคิดว่าเป็นทางตรงและเส้นทางดังกล่าวยังเป็นเส้นทางที่มีผู้คนใช้สัญจรไปยังจังหวัดตรัง, จังหวัดนครศรีธรรมราช, และ จังหวัดพัทลุง ทั้งยังเป็นแหล่งชุมชน มีตลาดนัด สถานที่ราชการ และโรงเรียนหลายแห่ง ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีทั้งอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเล็กน้อย จนถึงอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตก็มีหลายครั้ง
นายประภาส นวลจันทร์ เจ้าของร้านเครื่องเขียน บอกว่า บริเวณนี้ไม่มีสัญลักษณ์ทางเอก ทางโท และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะแต่ละวันมีคนใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก และมีโรงเรียนอยู่ในละแวกถึง 4 โรงเรียน ช่วงเช้า และ เย็น ปริมาณรถจะเยอะ และบางวันก็มีลาดนัด จึงเกิดเหตุรถชนกันบ่อย ตนอยากให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งสัญญาณไฟแดง เพื่อแก้ปัญหาให้กับชุมชน เพราะอุบัติเหตุแต่ละครั้งมีทั้งคนเจ็บ บางครั้งก็ตาย และทรัพย์สินของชาวบ้านก็เสียหาย
นายณรงค์ ลุ้งใหญ่ บอกว่า หลังเกิดเหตุตามที่มีการแชร์กัน ตอนค่ำของวันเดียวกันก็เกือบมีอุบัติเหตุซ้ำรอยเดิม ซึ่งสาเหตุมาจากคนขับรถไม่คุ้นทาง และหลายครั้งก่อนนี้ก็เกิดเหตุรถชนกันบ่อยครั้ง มีทั้งคนเจ็บ และ คนตาย เพราะไม่ป้ายเตือนที่ชัดเจน ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ คนจึงไม่รู้ว่าเป็นสี่แยก และบวกกับทั้งสองฝั่งเป็นทางตรง จึงขับขี่กันค่อนข้างเร็ว ตนจึงอยากให้มีไฟแดง หรือ มีสัญญานเตือน เพื่อชะลอความเร็วของผู้ใช้รถ
นายอนุเชษฐ์ มุกแก้ว กล่าวว่า จุดนี้นอกจากไม่มีสัญญารไฟแดงแล้ว ใหล่ทางยังขรุขระ ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ใช้รถต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ แต่หากเป็นคนไม่ชำนาญเส้นทางก็เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางลัดไป อ.บางขัน จ.นครศรีฯ และ อ.ป่าพยอม จ.พัทลุง ได้ ตนในฐานะอยากให้ตรงนี้มีสัญญาณไฟแดง หรือ มีเส้นถนนแสดงสัญลักษณ์จุดเสี่ยงอันตรายให้สะดุดตาผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสีย
ด้านนายสุภชัย ดรมุทิกุล อาสามูลนิธิประชาร่วมใจรัษฎา บอกว่า จุดนี้เกิดอุบัติเหตุเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งบางครั้งก็แค่เฉี่ยวชนกันไม่มีคนเจ็บ หรือบาดเจ็บเล็กน้อย และร้ายแรงสุดก็มีคนเสียชีวิต ซึ่งในช่วงกลางคืนหากขับรถไม่ชินเส้นทางหรือมาจากต่างถิ่นจะไม่รู้เลยว่าตรงนี้เป็นสี่แยก เพราะมืด ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ และถึงแม้ตนเองจะใช้เส้นทางนี้ทุกวันบางครั้งก็ลืมไปเหมือนกันว่าตรงนี้เป็นสี่แยก เพราะไม่มีไฟเตือน หรือเส้นถนนเตือนเลย และแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปจะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็ถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ มีคนเจ็บ 12 ราย และ ทั้งหมดเป็นรถยนต์ที่มาจากต่างจังหวัด
