ปราจีนบุรี – ชาวบ้านผวาหนัก ฝูงช้างป่าอ่างฤาไนนับ 100 ตัว ออกหากินในป่าอ้อย หมู่ที่ 11 บ้านวังกวาง ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี รายงานว่า ชาวบ้านพบฝูงช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จำนวนเกือบ 100 ตัว บุกเข้ามาหากินไร่อ้อยของชาวบ้านบ้านวังกวาง หมู่ที่ 11 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบรอยช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน เฉพาะในไร่อ้อยและไร่มันสำปะหลัง ถูกฝูงช้างป่ากัดกินพืชผลการเกษตรเสียหายจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายวันชัย ทองอ้ม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 11 บ้านวังกวาง กล่าวว่า มีฝูงช้างป่าอ่างฤาไนเข้ามาหากินอยู่ในพื้นที่ฝูงใหญ่ เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ร่วมกับ อบต. อาสาเฝ้าระวังช้างป่า ร่วมกับ ชุดผลักดันช้างป่าเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน ได้ผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่ฝูงช้างป่าก็ยังวนเวียนกลับมาหากินอยู่ในพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอย่างหนัก ต้องการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากช้างป่าที่มากัดกินและเหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว และอยากให้ทางรัฐบาลและส่วนที่เกี่ยวข้อง ผลักดันฝูงช้างป่าไม่ให้เข้ามาหากินในพื้นที่ ชาวบ้านอาจจะได้รับอันตรายจากช้างป่า ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร ทำไร่อ้อย ทำไร่มันสำปะหลัง และนาข้าว อาจพบกับช้างป่าโดยบังเอิญ อาจได้รับได้รับอันตรายจากช้างป่า
นายธำรงศักดิ์ จาบกุล สารวัตรกำนันตำบลวังท่าช้าง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีฝูงช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน จึงรายงานให้กำนันทราบ ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีฝูงช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน ซึ่งอยู่ติดกับเขตรอย เข้ามาหากินในพื้นที่กิน แล้วทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้านเสียหาย ทางผู้นำท้องถิ่น ร่วมกับ อบต.ได้ทำการร่วมกันผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ ช่วงเมื่อบ่ายวานนี้ แต่เนื่องจากฝูงช้างป่ามีจำนวนมาก จึงแตกฝูงไม่ยอมกลับพื้นที่ และยังคงหากินพื้นที่เดิม ซึ่งขณะนี้มีฝูงช้างป่าหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ประมาณ 30 ตัว ร่วมตัวอยู่ในป่าอ้อยและป่ายูคาลิปตัส และขณะนี้ได้ประกาศเตือนประชาชน ห้ามไม่ให้เข้าไปยังจุดที่ช้างอาศัยอยู่ และจะได้ทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
———————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
