ลูกสาว อส.เขียน พ้อกฎหมายและไร้สามัญสำนึก หลังพ่อถูก ไอ้ย้อย หนุ่มเดนคุกฆ่ามาแล้ว 2 ศพ พ้นโทษมาไม่ถึงปีกลับมาลงมือก่อเหตุฆ่าพ่อเป็นศพที่ 3 อยากให้กฎหมายเข้มแข็ง ติดคุกตลอดชีวิต หรือ ตัดสินประหารชีวิต เชื่อหากออกมาจากคุกอีกก็ต้องมีศพที่ 4 ชาวบ้านยังกังขาตำรวจไม่รับแจ้งความและไม่ยอมเข้ามาระงับเหตุ ทั้งที่ห่างจากโรงพักแค่ 400 เมตร
อส.เขียน : จากกรณีเกิดเหตุการณ์ที่นายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือย้อย อายุ 39 ปี หนุ่มเดนคุกเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าผู้อื่นออกมาจากเรือนจำเมื่อปี 2565 ซึ่งพ้นโทษมายังไม่ถึงปี และเคยต้องคดีฆ่าผู้อื่นครั้งยังเป็นเยาวชน 1 ศพ และในปี 2555 ได้ก่อเหตุฆ่าผู้อื่น 1 ศพ และพยายามฆ่าผู้อื่นอีก 1 ราย กระทั่งวานนี้ได้มึนเมาอย่างหนัก ก่อนจะทะเลาะกับเจ้าของร้านของชำที่นั่งดื่มกิน
โดยที่มีนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) และนายเขียน จันฝาก อายุ 57 ปี สมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส. อำเภอหาดสำราญ เข้ามาห้ามปราม ก่อนที่นายยุทธนาไม่พอใจ หาว่าพ่อเข้ามาจุ้นจ้าน จึงพยายามใช้มีดพกจะแทงพ่อตัวเอง แต่นายเขียน ซึ่งอยู่ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ได้เข้ามาห้ามนายยุทธนา ทำให้เกิดความไม่พอใจ จ้วงแทงนายเขียนจนเสียชีวิต โดยที่นายเขียนได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงสวนเข้าไปจนนายยุทธนาบาดเจ็บด้วย เหตุเกิดพื้นที่ หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ห่างจาก สภ.หาดสำราญ เพียงแค่ 400 เมตร เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 9 ม.ค.66
ประเด็นนี้ น.ส.กนกวรรณ จันฝาก อายุ 22 ปี ลูกสาวแท้ๆของผู้ตาย เปิดใจว่า หลังจากเกิดเรื่องก็ยังเสียใจ ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งตนเองทำงานอยู่ที่เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากนี้ก็คงจะต้องกลับมาหางานทำอยู่ที่บ้าน เพราะไม่มีใครอยู่แล้ว ปกติจะพูดคุยกับคุณพ่ออาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ล่าสุดเพิ่งคุยกันไปเมื่อ 2 วันก่อน เพราะต่างคนต่างทำงานไม่ค่อยมีเวลา และหากทางญาติผู้ก่อเหตุจะมาขอขมาหน้าศพก็คงจะยังไม่ให้มาดีกว่า เพราะยังทำใจไม่ได้ คงจะต้องรอเวลาไปก่อน
หลังจากที่รู้ว่าผู้ก่อเหตุคือคนที่สนิทกับพ่อ และพ่อเป็นคนที่ช่วยเหลือเขามาตลอด รู้สึกเสียใจมากที่มาทำแบบนี้ได้ ซึ่งตนก็รู้ข่าวมาแล้วว่าผู้ก่อเหตุเคยต้องคดีฆ่ามาแล้วถึง 2 ศพ และศพพ่อเป็นศพที่ 3 นั้น ตนรู้สึกว่าคนที่ทำผิดถึงขั้นฆ่าคนมาได้ขนาดนี้ และถูกปล่อยออกมา และกลับมาฆ่าคนอื่นอีก เหมือนไม่มีสำนึก และมองว่ากฎหมายไม่เข้มงวดเท่าไร เพราะฆ่ายังไงก็ติดคุกแค่ไม่กี่ปี ก็ยังคงออกมากระทำอีกซ้ำซาก ซึ่งหลังจากที่ผู้ก่อเหตุติดคุกครั้งนี้ก็อยากให้ได้รับโทษประหารชีวิต หรือตลอดชีวิตก็ได้ ขอให้ดีกว่าปล่อยออกมาเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและเครือญาติผู้เสียชีวิตต่างตั้งคำถามว่า ขณะที่มีการเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน ก่อนผู้ก่อเหตุจะลงมือแทง ทางเจ้าของร้านของชำได้เข้าไปแจ้งความกับทางตำรวจ แต่ทางตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ และให้กลับมาเคลียร์กันเอง แทนที่จะส่งสายตรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่กลับไม่มีตำรวจเข้ามา จนกระทั่งเรื่องบานปลายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว.
