ตาวัย 87 ปี ชาว อ.เมือง บุรีรัมย์ ฝันเห็นคนแก่มาบอกว่า”หนาว”ตื่นเช้ามารีบไปดูจุดที่ความฝันบอก พบรถแบ็คโฮ กำลังดึงต้นตะเคียนอายุกว่า 100 ปี ขึ้นจากลำห้วยขณะขุดลอก คนขับแบ็คโฮ ระบุดึงต้นไม้ขึ้นมาอย่างง่ายดาย ชาวบ้านเอามาไว้ที่วัดเชื่อมีปู่-ย่าของหมู่บ้านสิงห์อยู่ พร้อมขอโชคขอลาภและเลขเด็ด
วันที่ 16 ม.ค. 2566 ชาวบ้านกลันทา ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นำต้นตะเคียน คาดว่าอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งจมอยู่ในลำห้วยยาง ไปไว้ที่วัดกลันทา หมู่ 2 หรือวัดหลวงพ่อองค์ดำ ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่ ปู่-ย่า ประจำหมู่บ้านสิงห์อยู่ในต้นไม้ต้นนี้
ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างมาแห่ช่วยกันเอาน้ำมาล้างทำความสะอาด หลายคนมาจุดธูปเทียน ดอกไม้ และผ้าสีมาผู้ กราบไหว้ให้เป็นสิริมงคงต่อตนเองและครองครัว เพราะเป็นไม้ที่ชาวบ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อน ถึงแม้บริเวณดังกล่าวจะมีชาวบ้านไปหาปลาเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีใครไปสะดุด พบเจอ
นายพาน จะเชื่อมรัมย์ อายุ 87 ปี อยู่เลขที่ 10/1 หมู่ 2 ต.กลันทาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนฝันเห็นคนแก่ ชาย-หญิง 2 คน มาบอกว่าตอนนี้อยู่ใต้ต้นตะเคียนในลำห้วย อยากขึ้นมาจากน้ำแล้ว เพราะหนาวมานาน โดยในฝันเห็นสถานที่จุดที่ ตา-ยาย ทั้งสองคนบอกอย่างละเอียด แต่ไม่รู้มาก่อนว่ามีการขุดลอกคลองบริเวณนั้น
เมื่อไปถึง เห็นรถแบ็คโฮ กำลังดึงเอาต้นตะเคียนขึ้นออกมาจากก้นห้วย ตรงจุดที่ตนฝันเห็นชัดเจน เมื่อสอบถามคนขับรถแบ็คโฮ ว่าเอาขึ้นมาได้อย่างไร เพราะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ คนขับรถแบ็คโฮ บอกว่า ดึงขึ้นง่ายนิดเดียว แสดงว่าปู่-ตา อยากขึ้นมาจริงๆตามความฝัน
จึงเอาเรื่องราวที่ฝัน ไปบอกผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะมีการประชุมกัน แล้วมีมติเอาต้นตะเคียน เอาไปไว้ที่วัดกลันทา เพื่อให้ลูกหลานคนในบ้านเอาไว้ศึกษา และให้ชาวบ้านใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอีกทางหนึ่ง เพราะชาวบ้านเชื่อว่าปู่-ตา ประจำหมู่บ้าน สิงห์อยู่ในต้นตะเคียนต้นนี้
นางเหรียญ ดาทอง อายุ 75 ปี อยู่เลขที่ 79 หมู่ 2 ต.กลันทา อ.เมือง ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า ตนนี้ตนอายุ 75 ปีแล้ว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นต้นตะเคียนต้นนี้มาก่อน คาดว่าต้นตะเคียน จะมีอายุมากกว่า 100 ปีอย่างแน่นอน
ด้าน ร.ต.อ.กิตติพงษ์ บุศมาก อายุ 61 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่าปกติตนจะไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่พอเห็นตาพาน มาเล่าให้ฟัง ซึ่งตรงกับความเป็นจริงหน้างานขุดลอก และเมื่อชาวบ้านมีมติเอาไปไว้วัด ส่วนหนึ่งต้องปล่อยให้ชาวบ้านทำตามประเพณีความเชื่อ เพราะไม่ใช่เรื่องเสียหาย
