กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปล่อยขบวนรถทางไกลเที่ยวปฐมฤกษ์ หลังสถานีต้นทาง-ปลายทาง มายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประชาชนและนักท่องเที่ยวหนาตา แห่เผื่อเวลาเดินทาง หวั่น หลงในสถานี
วันที่ 19 มกราคม 2566 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกลและปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ สถานีรถไฟหลักแห่งใหม่ของประเทศไทย เพื่อพัฒนาและยกระดับให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมทางราง ที่ครอบคลุมการเชื่อมต่อการเดินทาง และขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ ลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยมี นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารการรถไฟฯ และสื่อมวลชน ร่วมงาน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ตามที่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางราง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการให้มีมาตรฐานทัดเทียมในระดับนานาชาติ กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบราง เปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกลที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ในวันนี้ เพื่อลดความแออัดในการให้บริการของสถานีกรุงเทพหรือหัวลำโพง และลดปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ รวมถึงลดปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อม PM2.5 นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพการเดินรถไฟให้ตรงต่อเวลามากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวก สบาย ปลอดภัย ตรงต่อเวลา ในราคาที่เหมาะสม และเป็นธรรม สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนยุคใหม่ในทุกมิติ ทั้งด้านการเดินทางขนส่ง การพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและศูนย์กลางระบบขนส่งแห่งใหม่ของประเทศไทย โดยหลังจากเปิดให้บริการแล้ว กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ รฟท. กรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางราง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ติดตามและประเมินผล การให้บริการขบวนรถไฟทางไกล เพื่อปรับปรุงการให้บริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่พี่น้องประชาชนต่อไป
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 เป็นต้นไป รฟท. กำหนดให้ขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ สายใต้ สายตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 14 ขบวน สายใต้ 20 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ขบวน มาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางอย่างครบครัน สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ พร้อมทั้งช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ
สำหรับขบวนรถไฟทางไกลประเภทรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว ทั้งสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เปิดให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประกอบด้วย
• รถไฟสายเหนือ 14 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ 7/8, 9/10, 13/14, 51/52, 109/102, 107/112, 111/108
• รถไฟสายใต้ 20 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ 31/32, 37/38, 39/40, 43/44, 45/46, 83/84, 85/86, 167/168, 169/170, 171/172
• รถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ 21/22, 23/24, 25/26, 71/72, 75/76, 133/134, 135/136, 139/140, 141/142
ผู้ว่าการ รฟท. คาดการณ์ว่า ภายหลังการเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล จะส่งผลให้มีผู้ใช้บริการสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 คนต่อวัน ซึ่ง รฟท.มีมาตรการรองรับ และพร้อมให้บริการ ทั้งป้ายบอกทาง จุดพักคอยผู้โดยสาร รถเข็นสัมภาระ ลานจอดรถที่สามารถรองรับได้มากกว่า 1,700 คัน รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ได้แก่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล และในอนาคตจะเชื่อมต่อการเดินทางทางอากาศ ผ่านระบบรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน
นอกจากนี้ ได้ร่วมกับ ขสมก. จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารฟรี เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตั้งแต่เวลา 04.30-23.00 น. เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ต่อมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำพิธีปล่อยขบวนเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก ซึ่งเป็นขบวนรถไฟทางไกลเที่ยวปฐมฤกษ์ เพื่อแสดงสัญลักษณ์การเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
จากนั้น ร่วมโดยสารไปกับขบวนรถท่องเที่ยว KIHA ไปยังจุดหยุดรถมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อพัฒนาให้เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางของนักศึกษาและประชาชนในบริเวณใกล้เคียง โดยให้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่าง รฟท. ขสมก. และกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่า วันนี้ แม้เป็นวันแรกของการย้ายบริการรถไฟทางไกล มายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาใช้บริการจำนวนมาก ทำให้ที่นั่งในจุดพักคอยที่จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ จนต้องยืนหรือนั่งบนพื้นกัน
ผู้โดยสารส่วนใหญ่ต่างเผื่อเวลาในการเดินทาง โดยบอกว่า ไม่เคยมาใช้บริการที่นี่ จึงเกรงว่าจะทำอะไรไม่ถูกและเดินหลง อย่างไรก็ตาม มีผู้โดยสารบางส่วน ที่ยังเดินทางไปซื้อตั๋วและรถขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง เพราะไม่ทราบข่าว จึงต้องต่อรถมายังสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: