ราชบุรี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 4 ก.พ.66 ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สุดแก้ว ร้อยเวร สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงพยาบาลดำเนินสะดวก หมู่ 4 ต.ท่านัด จึงได้ประสานงานรถดับเพลิงจาก อบต.ท่านัด เทศบาลตำบลดำเนินสะดวก และรถน้ำของหน่วยกู้ภัยใกล้เคียง รวม 4 คัน ให้ไปช่วยฉีดน้ำดับเพลิง ก่อนจะเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศล ที่เกิดเหตุเป็นตึกอุบัติเหตุ มีกลุ่มควัน พุ่งออกมา จากอาคารดังกล่าวซึ่งเป็นห้องกระจกอยู่ด้านในของห้องฉุกเฉิน ทางเจ้าหน้าที่ต้องทุบกระจกเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลากว่า 20 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทั้งในอาคารผู้ป่วยฉุกเฉินและอาคารข้างเคียงไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ต่อมานายสุวิทย์ชาติ นวมเพ็ชร นายอำเภอดำเนินสะดวก พร้อมทั้งนายแพทย์สันติ สุขหวาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดำเนินสะดวก และนางรุจิรัตน์ กอธงทอง หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ได้ร่วมกับจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบบริเวณห้องที่เกิด ไฟไหม้ พบว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้รับความเสียหาย จำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเครื่องอุลตร้าซาวด์ 2 เครื่องออโต้ CPR จำนวน 3 เครื่อง เครื่องควบคุมสารน้ำ 5 เครื่อง เครื่อง BP Monitor 8 เครื่อง เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว 5 เครื่อง เครื่องกระตุกหัวใจ 3 เครื่อง เครื่องช่วยให้ใจ 2 เครื่อง เครื่องผลิตออกซิเจนแรงดันสูง 1 เครื่อง Vidio Laryngo 1 เครื่อง Laryngoscope 4 ตัวเครื่องตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า 1 ตัว โดยอุปกรณ์ทั้งหมดได้รับความเสียหายไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ เบื้องต้นมูลค่าความเสียหาย คาดว่าน่าจะเกินกว่า 10 ล้านบาทโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
จากการสอบถามนางสาวรุ่งทิพย์ กาญจนฤกษ์ พยาบาลวิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่เวรอยู่ในตึกดังกล่าวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นพยาบาลอยู่ในห้องฉุกเฉิน ขณะเกิดไฟไหม้ มีคนไข้เข้าไปในตึก และมีเสียงดังอยู่ในห้องด้านใน เหมือนไฟช็อต และเริ่มมีกลุ่มควัน และมีกลิ่นเหม็น จึงได้แจ้งทาง ผู้บริหารและหัวหน้าตึก พร้อมทั้งแจ้งไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดำเนินการ
ทางด้านนายแพทย์สันติ สุขหวาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดำเนินสะดวก กล่าวว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกอุบัติเหตุ เกิดกลุ่มควันขึ้นมา เบื้องต้นยังไม่พบต้นเหตุของเพลิง ควันค่อนข้างมาก ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทั้งในตึกอุบัติเหตุและอาคารข้างเคียง ให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยได้ประสานกับทางอำเภอ หน่วยกู้ภัยต่างๆ และดับเพลิง เข้ามาช่วยกัน เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้บาดเจ็บ ส่วนสาเหตุจากที่ได้รับรายงานน่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร แต่คงต้องรอเจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบ อีกครั้งหนึ่ง
