อนุทิน” ชี้ “แลนด์บริดจ์ พลิกโฉมหน้าชุมพร-ระนอง”
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างเป็นประธานเปิดการสัมมาวิชาการการพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ภายใต้โครงการพัฒนาต้นแบบการเข้าถึงการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเชิงรุก ที่โรงพยาบาลระนอง ว่า การพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ หรือการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ชุมพร-ระนอง ไม่ใช่การขุดคลอง แต่เป็นการสร้างถนน สร้างทางรถไฟ สร้างทางยกระดับ วางท่อแก๊ส และเจาะอุโมงค์ที่ผ่านภูเขา เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นับว่าโชคดีที่ชุมพร-ระนอง บรรพบุรุษได้วางรากฐานไว้ดีมีสนามบินทั้งสองจังหวัด ส่วนภูมิประเทศก็สามารถทำท่าขนส่งสินค้าได้ โดยที่ไม่ต้องขุดคลอง ไม่ต้องตัดภูเขา ไม่ต้องตัดแผ่นดิน เพียงแต่ไปทำถนนขึ้นใหม่อีกเส้นหนึ่ง เหมือนกับที่เคยทำถนนเพชรเกษมจากกรุงเทพฯไปถึงหาดใหญ่ ซึ่งมันอยู่ในประเทศเราจะสร้างอย่างไรก็ได้เป็นเรื่องของเรา แต่ว่าคุณูปการนี้จะทำให้ประเทศไทยของเรามีความได้เปรียบทันที
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนและปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปประชุมเวิลด์อิโคโนมิคฟอรั่ม(world economic forum)มา ทั่วโลกบอกว่ามีปัญหา ยุโรปมีปัญหา จีนมีปัญหากับสหรัฐ สหรัฐก็มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง กับสงครามในยุโรป โอกาสเศรษฐกิจของโลกในทศวรรษ คือ 10 ปีข้างหน้านี้ อยู่ที่อาเซียน ไม่ใช่เอเซียนะ เพราะอาเซียนเป็นตัวลิงค์(เชื่อมโยง)ตะวันตกกับตะวันออก ต่อไปการขนส่งไม่ต้องอ้อมแหลมมาลายู เรือตู้คอนเทนเนอร์จากยุโรปสามารถขนย้ายขึ้นรถไฟหรือรถบรรทุกจากฝั่งระนองไปลงเรือยังฝั่งชุมพรได้ จะส่งต่อไปยังจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ได้หมด สามารถออกซ้าย-ขวาได้ ทำให้เราเป็นชุมทาง เป็น Port เป็นศูนย์กลาง แล้วระนอง ตลอดเส้นทางไปจนถึงชุมพร การลงทุน อุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้น เรื่องสิ่งแวดล้อมไม่ต้องกลัวมีวิธีการจัดการสิ่งแวดล้อม การจ้างงาน รายได้ก็จะเกิด แต่กว่าจะถึงวันนั้นเราคงตายหมดแล้ว แต่วางรากฐานไว้ ในระหว่างที่เรากำลังก่อสร้างโลกทั้งใบมาอยู่ที่เราแล้ว ลงทุนเท่าไหร่ ใช้แรงงานเท่าไหร่ ใช้สินค้าเท่าไหร่ การวางแผนการลงทุนพัฒนามาใช้ในการคมนาคม ขนส่งสินค้า ประเทศไทยไม่ใช่ regional(ภูมิภาค)อีกต่อไป แต่จะเป็น Player หลักของโลก
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ถ้าอีก 30-40 ปี ถ้าสิ่งเหล่านี้สำเร็จ ถ้าคนระนอง คนใต้ช่วยกัน มองความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลัก อีกหน่อยคนทั้งโลกก็จะมาที่ระนอง-ชุมพร เรามี EEC(Eastern Economic Corridor) หรือระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกแล้ว ทำไมจะมี SEC (Southern Economic Corridor) หรือระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ไม่ได้ ขอให้แค่มีส่วนร่วมและผลักดัน มันจะต้องเกิดขึ้น ไม่ฉะนั้นประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้
