ราชบุรี ในวันนี้ ( 8 ก.พ.66 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางยุวันดา อุรุพงศา เจ้าของท่าเรือยุวันดา ในตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ว่าวันนี้ในช่วงเที่ยงได้เกิดอุบัติเหตุ เรือชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้ที่บาดเจ็บนั้นเป็นคนพายเรือพานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมวิถีธรรมชาติในคลองดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นคนของท่าเรือของตนเอง แต่ถูกคนขับเรือท่าเรืออื่น สองท่าเรือ ทะเลาะกันแล้วขับเรือเครื่อง มาชนคนขับเรือพาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่นักท่องเที่ยวที่นั่งเรือพายไปไม่ได้รับบาดเจ็บและเรือก็ไม่คว่ำ ส่วนเรือสองลำที่ก่อเหตุก็ขับหนีไป ไม่ได้มาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ตนได้พาคนพายเรือไปหาหมอที่โรงพยาบาลดำเนินสะดวก และพาไปแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.ดำเนินสะดวก กลับบอกว่าเรื่องนี้ต้องให้แจ้งกับกรมเจ้าท่าที่ดูแลท่าเรือ และให้หากล้องวงจรปิดไปเป็นหลักฐาน ทั้งที่เป็นอุบัติเหตุเพราะเรือชนกัน แต่ตำรวจกลับให้ไปแจ้งกับกรมเจ้าท่า จึงได้แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าว
โดยนางยุวันดา อุรุพงศา เจ้าของท่าเรือยุวันดา กล่าวว่า ตนเห็นลูกน้องกลับมาจากพายเรือพานักท่องเที่ยวชมคลอง เห็นว่าตัวสั่น ๆ เลยไปสอบถามเรื่องราวจึงได้ทราบว่าถูกเรือชน จนนักท่องเที่ยวต้องขึ้นมาช่วย เนื่องจากมีเรือสองลำ ได้เกิดทะเลาะกันก่อนที่จะเร่งเครื่องมาชน ลุงพงษ์ หรือนายสมพงษ์ นิ่มนวล อายุ 64 ปี อาชีพพายเรือให้นักท่องเที่ยว เข้าที่ศีรษะและหลังจนหน้าคว่ำลงบนเรือ พอทราบเรื่องก็ให้ลูกจ้างพาลุงพงษ์ ไปเข้าแจ้งความที่สภ.ดำเนินสะดวก แต่ทางโรงพักแจ้งว่าไม่ใช่เรื่องของทางสภ.ให้ไปแจ้งกับทางกรมเจ้าท่า ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเกิดเหตุแบบนี้ เลยพาลุงพงษ์ไปหาหมอที่รพ.ดำเนินสะดวก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปด้วยไม่ได้รับบาดเจ็บ ในตอนนี้ทางคู่กรณีก็ยังไม่ได้การติดต่อมาขอโทษหรือมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ด้าน นายนัทธสันต์ พุฒเทศ อายุ 58 ปี คนดูแลท่าเรือยุวันดา กล่าวว่า ลุงเล่าให้ฟังว่ากำลังพายเรืออยู่ได้ยินเสียงเรือเร่งเครื่องและพุ่งมาชน เรือคุ่กรณีก็ยังไปชนร้านค้า อีกลำก็ไปชนลุงพงษ์ ทั้งคู่เป็นเรือเปล่าหลังจากการส่งนักท่องเที่ยวขึ้นท่าแล้ว ส่วนเรือลำที่ชนลุงพงษ์ก็ยังไม่ได้ติดต่อมา รู้ว่าเป็นเรือลำสีเหลือง ๆ หลังจากนั้นก็มีการไปแจ้งความ ทางสภ.ดำเนินสะดวกบอกว่า ตรงนั้นเป็นส่วนของกรมเจ้าท่า ตนเลยโทรไปที่กรมเจ้าท่า ๆ ก็บอกกลับมาว่าเหตุเกิดแบบนี้ต้องเป็นตำรวจ กลายเป็นว่า ต่างคนต่างโยน ชาวบ้านก็ไม่รู้จะพึ่งใคร ตนก็กลัวว่าในอนาคต เรือชนกัน มีเรื่องกันพอไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ใจ ก็จะมีเหตุแบบนี้ขึ้นอีกเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุเรือ เร่งเครื่องแข่งกันซึ่งบนเรือก็มีนักท่องเที่ยวอยู่แล้วก็เบียดกันไป พอต่างคนต่างไม่ยอมก็เลยเกิดการถีบกันก่อนจะมีเรื่องกัน ทำให้นักท่องเที่ยวต้องวิ่งหนีขึ้นบก เรื่องแบบนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่เราก็ไม่อยากให้มี และอยากให้มีมาตรการเด็ดขาด
ส่วนนายสมพงษ์ นิ่มนวล อายุ 64 ปี อาชีพ คนพายเรือให้นักท่องเที่ยวชมตามคลอง กล่าวว่า ตอนนั้นรับนักท่องเที่ยวจากท่าไป 5 คน ตนก็พายอยู่ดี ๆ เรือเครื่องก็มาข้างหลัง 2 ลำ ได้ตีกันแต่ไม่ดับเครื่อง จนทำให้เรือวิ่งมาชนเรือของตนที่กำลังพายอยู่ ส่วนหัวของเรือมาโดนเข้าที่หัวและหลัง จนหน้าคว่ำลงไป นักท่องเที่ยวเห็นเลยช่วยพยุงขึ้น แต่โชคดีที่เรือไม่ล่ม ตอนนั้นรู้สึกใจสั่นไปหมด แต่ตอนที่ตีกันนั้นตนไม่รู้ว่าใช้อะไรตี เพราะจะหันไปก็มาโดนชนก่อน หลังจากเกิดเหตุก็พายเรือพานักท่องเที่ยวกลับเพราะรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วเมื่อเช้าก็ไปสภ.ดำเนินสะดวก แต่เขาไม่รับแจ้งความ และไปหาหมอตรวจพบว่ามีเนื้อช้ำที่หลัง กระดูกไม่เป็นอะไรแต่รู้สึกเจ็บส่วนจะทำงานได้หรือไม่ก็ดูก่อน ตนจำลักษณะของเรือได้เพราะเรือจะสีแปลก ๆ กว่าเขาและเคยเห็นเรือลำนี้มาก่อน เรือคนที่มาชนก็ไม่มาพูดด้วยขับเรือไปเฉย ๆ
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปดูบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นคลองด้านใน พบว่าที่ร้านค้าในจุดเกิดเหตุมีร่องรอยถูกชนจนสังกะสีที่ปิดร้านนั้นทะลุเข้าไป สอบถามแม่ค้าที่ร้านค้าใกล้จุดเกิดเหตุ ก็ไม่เห็นตอนที่เรือสองลำตีกัน แต่หันมาก็เห็นว่ามีเรือมาชนลุง แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันมา หลังจากที่เรือมาชนลุงแล้วก็ขับกลับท่าเรือไปเลย จึงไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในตอนแรกนั้นเป็นอย่างไร
ซึ่งในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.ชินภัทร เจียมอ่อน รองผกก.ป.สภ.ดำเนินสะดวก ก็บอกว่า เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่ต้องรับแจ้งความอยู่แล้ว แต่อาจจะมีการสื่อสารกันผิด ซึ่งก็ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำคนเจ็บแล้ว
