สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารปิดเส้นทางถนนศรีเพ็ญ ห้ามไม่ให้ นายวีระ สมความคิด ชาวบ้านและทีม จนท. พร้อมรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าพื้นที่ป่าไร่ ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินนัดหมายให้มีการรังวัดที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 กระทั้งมีการอนุญาติให้เฉพาะเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ แต่สามารถทำได้แค่ 1 จุด ก็ถูก ตชด.กัมพูชาจำนวนมากกว่า 50 นาย พร้อมอาวุธ บุกข้ามเส้น Mou43 มาฝั่งประเทศไทย พร้อมข่มขู่และห้ามดำเนินการ จึงมีการเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารกระทำผิด ม.157
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 10 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ทำการปิดกั้นเส้นทางที่บริเวณด้านหน้ากองร้อยทหารพรานที่ 1305 กรมทหารพรานที่ 13 พื้นที่ หมู่ 8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไม่ให้ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ของบรรพบุรุษบ้านน้อยป่าไร่ และนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) พร้อมด้วย นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าไปตรวจสอบการรังวัดเขตที่ดินของ นางกันจณา สมมล โดยมีเจ้าหน้าที่กรมที่ดินสาขาอรัญประเทศ เข้าร่วมด้วยภายหลังได้รับการรับรองว่ามีเอกสารถูกต้อง เพื่อทำการออกโฉนดในที่ดินบริเวณฝั่งตะวันออกของถนนศรีเพ็ญ ห่างจากเส้น Mou43 ประมาณ 500 เมตร ซึ่งหลังพูดคุยระยะหนึ่ง ทหารได้อนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ดินและชาวบ้านจำนวนหนึ่งเข้าไปในพื้นที่เพื่อดำเนินการรังวัด ส่วนเส้นทางถนนศรีเพ็ญ ตั้งแต่ด้านหน้ากองร้อยฯไปจนถึงแนวที่ดินชาวบ้านอ้างสิทธิ์ ถูกปิดเส้นทางไม่ให้มีการเข้า-ออก นานเกือบ 1 เดือน อ้างว่าไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่กรมที่ดินสาขาอรัญประเทศ และนางกันจณา สามล เข้าไปทำการรังวัดได้เพียง 1 จุด หรือ 1 หลักหมุด เจ้าหน้าที่ทหารพรานก็เข้าไปแจ้งว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวไม่ปลอดภัย จึงไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำการรังวัดต่อ ซึ่งขณะนั้นมี นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 มาร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน ซึ่งพบว่า มีกองกำลัง ตชด.กัมพูชา ได้บุกข้ามแนวเส้น Mou43 เข้ามาฝั่งประเทศไทยเพื่อกีดกันไม่ให้มีการรังวัดต่อ โดยไม่ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยแต่อย่างใด โดย ตชด.กัมพูชา ห้ามไม่ให้มีการรังวัดต่อ พร้อมกับ แจ้งว่า ถ้าจะทำการรังวัดต่อให้ทำดังนี้ โดยให้เจ้าของที่ดิน ประสานส่วนราชการ นายอำเภอ เพื่อให้ทำเรื่องไปที่ สน.ปทก. หรือสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อประสานแจ้ง สน.ปกท.หรือ สำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยทำเรื่องเพื่อต้องการวัดให้แล้วเสร็จ โดย ตชด.กัมพูชา แจ้งว่า ถ้าผู้บังคับบัญชาของฝ่ายกัมพูชาอนุญาต ก็สามารถทำการรังวัดต่อได้ ทำให้การรังวัดดังกล่าวต้องยุติลง
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม สุดสลดเพลิงพิโรธรุ่งวอด 9 หลัง ชาวบ้านไร้ที่อยู่ จนท.เร่งช่วยเหลือ
- กระบะชิ่งอัดท้าย 18 ล้อร่างติด คาซากรถ จนท เร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
- ทหาร ตำรวจ ปกครอง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี รวบหนุ่มไร้สัญชาติพร้อมยาบ้า 170,000 เม็ด คาด่านตรวจ
- นบ.ยส.24 โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2101 โชว์ฝีมือจับผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 12,000 เม็ด
สำหรับ นายวีระ สมความคิด และนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ภายหลังถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมหรือตรวจสอบการรังวัดที่ดินดังกล่าว ก็ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลา 15.12 น.ที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก โดยระบุว่า วันนี้(10 ก.พ.2566) นายวีระ สมความคิด อายุ 65 ปี ผู้แจ้งที่ 1 พร้อมด้วย นางกันจณา สามล อายุ 53 ปี ผู้แจ้งทั้งสองได้เข้าพบ ร.ต.อ.สุนทร จันทร์คล้าย พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนิคดีกับ ตชด.กัมพูชา นำโดย ร้อยเอกเจมส์ กับพวก รวมจำนวนประมาณ 50 นาย โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “บุกรุกและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่ดิน” เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เหตุเกิด พื้นที่ดินใบจอง (นส.2 ก) หมู่ที่ 8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
โดยนายวีระ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 10.30 น.พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 นางกันจณา สามล “ผู้แจ้งที่ 2” ได้ยื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินตามใบจอง (นส.2 ก) ต่อสำนักงานที่ดินอำเภออรัญประเทศ ที่ดินตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี (สระแก้ว) เล่ม 13 หน้า 50 เลขที่ 138 และเจ้าพนักงานที่ดินได้กำหนดนัดผู้ร้องไปทำการรังวัดที่ดิน เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ตามคำร้องในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ต่อมา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 10.30 น.นางกันจณา สามล “ผู้แจ้งที่ 2” พร้อมด้วย “ผู้แจ้งที่ 1” เจ้าพนักงานที่ดิน นายอำเภออรัญประเทศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และบุคคลฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบทำการรังวัดแนวเขตที่ดินตามที่ นางกันจณาฯ ได้ยื่นคำร้องขอไว้ ได้เดินทางไปเพื่อทำการรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว แต่ปรากฏว่า มีกองกำลังติดอาวุธของกัมพูชา จำนวนประมาณ 50 นาย ได้นำกำลังบุกรุกเข้ามาในที่ดินของ นางกันจณาฯ ที่กำลังจะทำการรังวัด เพื่อขอออกโฉนดที่ดิน
แต่ปรากฏว่า หัวหน้ากองกำลังกัมพูชาได้เดินเข้ามาขัดขวางการทำการรังวัดที่ดิน โดยขับไล่ผู้แจ้งทั้งสอง นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าพนักงานที่ดิน เจ้าหน้าที่ทหารพราน และบุคคลที่เข้าไปในพื้นที่ดินที่จะทำการรังวัด ให้ออกจากพื้นที่ โดยใช้กองกำลัง ตชด.กัมพูชา มาขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ จนบุคคลที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปทำการรังวัดที่ดินทุกคน จึงต้องจำยอมถอยออกจากพื้นที่ จนเจ้าพนักงานที่ดินไม่สามารถทำการรังวัดที่ดินให้กับนางกันจณาฯได้
อย่างไรก็ตาม นายวีระ ระบุด้วยว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 13 ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรไทย ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว และพบเห็นในการกระทำความผิดเกิดขึ้นซึ่งหน้า แต่กลับไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในการดูแล และรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชน ปล่อยให้กองกำลังต่างชาติ นำกำลังบุกรุกเข้ามาในแผ่นดินไทยโดยผิดกฎหมาย และยังใช้อำนาจเข้ามาข่มขู่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่ดินไทย การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 13 ซึ่ง”ผู้แจ้งที่ 1″ เห็นว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 13 ดังกล่าว เข้าข่ายเป็นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้แจ้งทั้งสอง จึงมาร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานดังกล่าว เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมายด้วย โดยภายหลัง ร.ต.อ.สุนทร จันทร์คล้าย พนักงานสอบสวนให้ทำบันทึกแจ้งความ พร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานแล้ว และได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 91/2566 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: