(เชียงราย) กล้องวงจรปิดจับภาพ กระบะเร็วทะลุนรก ชนแท่งแบริเออร์เหาะข้ามเกาะชนรถเก๋ง แล้วหนีหาย
วันที่ 14 ก.พ.2566 เวลา 20.30 น.เกิดอุบัติกระบะชนแท่งแบริเออร์ กระโดดข้ามเกาะมาชนรถเก๋ง ที่กำลังรอจะเลี้ยวยูเทิร์น ชนเสร็จไม่จอดดูคู่กรณี กับขับรถหนีหายไร้วี่แวว
ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามนายชนบดี อายุ 39 ปี อาศัยอยู่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย เป็นผู้เสียหาย ที่กำลังยืนอยู่ข้างรถเก๋งฮอนด้าสีขาว ทะเบียน งษ 7649 เชียงใหม่ รถที่ประสบเหตุ สภาพรถกันชนด้านหน้ารถแตกพังยับ นายชนบดี เล่าเหตุการณ์ ตนเองได้ออกจากบ้านมาเพื่อจะไปทำธุระ พอมาถึงที่ยูเทิร์น เพื่อที่จะเลี้ยวรถกลับ ซึ่งยูเทร์นดังกล่าว จะมีแท่งแบริเออร์แบ่งเป็น 2 ช่องทาง รถที่จะมุ่งหน้าไปเชียงราย ให้เบี่ยงขวา หากจะกลับรถต้องเข้าช่องทางขวา ซึ่งขณะที่เข้าช่องชะลอความเร็ว ได้เห็นรถกระบะขับมาจากจังหวัดเชียงราย มุ่งหน้าเข้าอำเภอแม่สาย แต่พบว่ารถกระบะคันดังกล่าว ชนเข้ากับแบริเออร์เต็มแรง แล้วยังพุ่งเข้าชนกับรถตนเอง รถกระบะคันที่ก่อเหตุชนเสร็จไม่จอดลงมาดูกับขับหนีหายไป นายชนบดี ได้มีเพื่อนชายที่นั่งมาด้วยกัน สามารถจดจำทะเบียนรถคันก่อเหตุได้ ซึ่งกำลังยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงยูเทิร์นบ้านจ้อง ทราบว่า ที่ผ่านมายูเทิร์น ดังกล่าว เป็น 4 แยก ก่อนหน้าไม่มีแท่งแบริออร์ มักจะเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เกิดจะคนใช้รถใช้ถนน มักง่าย เวลาข้ามไม่มองรถที่วิ่งมาทางตรงไปมาด้วยความเร็ว และชาวบ้านที่ชอบขับรถย้อนศร และส่วนใหญ่จะเกิดจากคนเมา ที่เกิดอุบัติแทบทุกวัน ทำให้กรมทางหลวงได้แก้ไขปัญหาลดอุบัติเหตุ จัดนำแท่งแบริเออร์มาวาง แบ่งช่องทางจราจร
แต่กับพบว่า ในช่วงเวลามืดผู้ที่สัญจรมาจากจังหวัดเชียงรายด้วยความเร็ว มุ่งหน้าเข้าอำเภอแม่สาย วิสัยทัศน์ในการมองเห็นแท่งงแบริเออร์น้อยมาก และไม่สามารถมองเห็นแสงไฟรถที่จอดรอเลี้ยวยูเทิร์น เพราะแท่งแบริเออร์บังแสงไฟรถ ทำให้รถที่วิ่งมาทางตรงด้วยความเร็ว เมื่อมาใกล้ถึงแท่งแบริเออร์มักหักลบมองไม่เห็น อีกทั้งแสงไฟเหลืองกระพริบ บางอันก็เสีย ตัวสะท้องแสงก็มองไม่เห็นชัด ทำให้เกิดอุบัติเหตุเวลากลางคืนมากที่สุด ซึ่งต้องรอหน่วยงานเข้ามาแก้ไขในส่วนแสงสะท้อง และไฟ อีกครั้ง ในส่วนรถกระบะชนแล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทะเบียนรถแล้ว ยังอยู่ในระหว่าง ติดตามมาดำเนินคดี พร้อมกับตรวจสอบว่ามีการดื่มแฮลกอฮอล์มาหรือไม่
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: