ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในอำเภอภูกระดึง ได้รับความเดือดร้อนจากโขลงช้าป่า ลงมาทำลาย กินพืชผลทางการเกษตรของชาวภูกระดึง เดือดร้อนอย่างหนัก กว่า 70 ตัว ชาวบ้านผวา กลัวอย่างหนัก กว่า 1 ปี กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทนรับชะตากรรม ไร้วี่แววการแก้ไข
นายภูมิภพ กองลาแซ อายุ 31 ปี ชาวบ้านท่ายางหมู่10 ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง เล่าว่า ในช่วงประมาณ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ มาโขลงช้างป่าประมาณ 70-80 ตัว หนีหนาวมาพักอยู่ในเขตของอำเภอภูกระดึง รอยต่อกับอำเภอภูหลวงในเขตป่า ลงมาที่บ้านห้วยยางใหญ่ ลงกินพืชผลการเกษตร ไม่ว่าจะเป็น อ้อย ยางพารา ต้นไผ่เลี้ยง กล้วย มันสำปะหลัง ร่วม 2,000 กว่าไร่ ตอนนี้เดือดร้อนหนัก และช้างกำลังเพิ่มพื้นที่ออกมากว้างมาก ปัจจุบันชาวบ้านไม่สามารถไปสวนเก็บเกี่ยวผลผลิตใด้เลย เกษตรกรบางรายโขลงช้างป่าได้ทำลายรถกระบะ รถทางการเกษตรจนเสียหายยับ เป็นเศษเหล็ก ที่อยู่อาศัยบ้านพักพังไปหมดไม่มีชิ้นดี กลัว ผวา กันทั้งหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณดังกล่าว มีแต่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ประจำอยู่ เพียง 4 นาย ทำอะไรไม่ได้ ชาวบ้าน อยากให้มีการผลักดันช้าง ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน และอยากให้หน่วยงานรัฐมา ช่วยเยียวยาพืชผลและที่อยู่อาศัยที่เสียหาย
ข่าวน่าสนใจ:
ด้านนางสาวศิรินภา อาจแก้ว. ผู้ใหญ่บ้านบ้านซำบ่าง หมู่ 5 ตำบล ต.ห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านนั้น ต้องตั้งเวรยาม เพราะมีช้างประมาณหลายตัวออกจากป่าเข้ามาในหมู่บ้าน แล้ว 12 ตัว มาทำลายข้างของ ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ต้องออกตระเวนไล่ช้างเสี่ยงมาก บอกไปยังชาวบ้านให้ระวัง แต่ก็ไม้รู้ทำอย่างไร รอการช่วยเหลือจากหน่วยที่เกี่ยวข้องอยู่เช่นกัน
ด้านนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง กล่าวว่า ช้างโขลงนี้ได้มาอยู่ที่บริเวณภูค้อภูกระแต แล้วประมาณ 1 ปี และลงไปหากินในพื้นที่ ส่วนหนึ่งหนีหนาวลงมาหากินจากภูหลวง พาโขลงมาหากินที่ภูค้อภูค้อกระแต กลางคืนจะออกหากินพื้นที่ ไร่สวนชาวบ้าน ที่ทราบประมาณ 40-50 ตัว
สำหรับการให้ความช่วยเหลือนั้นตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่ ที่เกษตรกรหรือชาวบ้านอยู่และทำการเกษตรนั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ไดๆ เพียงแจ้งไปยัง ชาวบ้านให้ระมัดระวัง ไม่ให้ไปใกล้บริเวณที่ช้างอยู่ และแนะนำให้ชาวบ้านนั้น หนีเอาตัวรอด ปัจจุบันมีเจ้าหน้าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อภูกระแต ผู้ใหญ่บ้าน บ้านซำบ่างและจิตอาสาเข้าพื้นที่ไปประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ ให้ความรู้ มีการตั้งกลุ่ม line เหมือนกับทางอำเภอภูหลวง เพื่อป้องกันเหตุ และมีการทำหนังสือแจ้งความเดือดร้อน ไปยังจังหวัดเลย เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยทราบ เพื่อหากทางแก้ไขระยะยาวต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: