สงขลา-สะเดา สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 แถลงข่าวจับเนื้อสุกรแช่แข็งจากประเทศบราซิลน้ำหนัก 30 ตัน มูลค่ารวม 6 ล้านบาท หลักถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ผ่านด่านสะเดา และกำลังขนถ่ายในลานสินค้าพื้นที่ ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ( มีคลิป )
23 กุมภาพันธ์ 2566 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีฯ ได้สั่งการให้นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ดำเนินการปราบปรามจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรและสินค้าที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างเข้มงวด
โดยนายธนเสฎฐ์ พรพิชัยดำรงค์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ศภ.4 ได้มอบหมายให้นายเริงพจน์ อารีย์กุล หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สคศ. ศภ.4 และเจ้าหน้าที่ ฝปป. เข้มงวดในการปราบปรามสิ่งของผิดกฎหมายและการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร ที่เป็นภัยต่อประชาชนอย่างเคร่งครัด
ซึ่งในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 17.50 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับด่านศุลกากรสะเดา หน่วยสืบสวนปราบปรามสงขลา และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้ทำการตรวจค้นรถบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU สีขาว บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 40 ฟุต ขณะขนถ่ายสินค้าให้รถยนต์บรรทุก ยี่ห้อ HINO สีแดง บริเวณลานขนถ่ายสินค้า(ลานรีเฟอร์สะเดา) หมู่ที่ 2 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ผลการตรวจค้นพบเนื้อสุกรแช่แข็ง มีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล ลักษณะอยู่ในถุงพลาสติกและใส่ลังกระดาษ ลังละ 20 กิโลกรัมเศษ บรรจุอยู่ภายในรถบรรทุกทั้งสองคัน จำนวนประมาณ 30,000 กิโลกรัม มูลค่ารวม 6,000,000 บาท โดยลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร และจากการตรวจสอบไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่จึงได้อาศัย อำนาจตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ยึดสิ่งของดังกล่าวพร้อมรถยนต์บรรทุกทั้งสองคัน (ยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด) พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งด่านศุลกากรสะเดา เพื่อดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าปลายทางของเนื้อสุกรแช่แข็งจะถูกส่งไปที่ใด ซึ่งเราได้ควบคุมตัวคนขับรถไว้และรอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาประกันตัวเพื่อจะได้ทำการสอบสวนขยายผลต่อไป สำหรับการจับกุมในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก แต่ในกรณีที่แอบซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าอื่นๆสามารถจับกุมได้หลายครั้ง สำหรับของกลางจะนำส่งให้กรมปศุสัตว์เพื่อดำเนินการต่อไปตามข้อตกลง ระหว่างกรมศุลกากรกับกรมปศุสัตว์ ซึ่งของกลางจะถูกนำไปทำลายต่อไป
และจากการพูยคุยกับคนขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งบอกประวัติส่วนตัวเพียงว่าเป็นชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองเช่ารถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ มาในราคาเดือนละ 20,000 บาท เพื่อมารับจ้างขนสินค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา หลังจากไปส่งของในโกดังที่ประเทศมาเลเซียเสร็จแล้ว ก็ได้รับการว่าจ้างให้ขนสินค้ากลับมาส่งเพื่อขนถ่ายต่อในพื้นที่ ต.สำนักขาม ได้ค่าแรง 2,500 บาทต่อครั้ง ซึ่งจะทำในลักษณะนี้ประมาณเดือนละ 3- ครั้ง โดยที่ตนเองไม่ทราบว่าสินค้าเป็นอะไร แต่ครั้งนี้ทราบว่าแจ้งเป็นขาไก่แต่กลับไม่ใช่ โดยการเข้ามาแต่ละครั้งจะผ่านชิบปิ้ง ซึ่งเป็นผู้กำหนดว่าจะเป็นเวลาไหนอย่างไร
