กรุงเทพฯ – วุ่นทั้ง บช.น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ปรี่เข้าใส่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ แต่ถูกคนติดตามเข้าค้ำคอไว้ นายชูวิทย์ฉุนจัด โยนนวมท้าชกแบบลูกผู้ชาย ขณะนายสันธนะ ประกาศ ดำเนินคดีแน่นอน
วันที่ 2 มีนาคม 2566 ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขณะที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางไปถึง บช.น. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอให้เร่งรัดดำเนินคดี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส และพวก
นายชูวิทย์ ซึ่งเดินทางไปถึงก่อน ได้เดินปรี่เข้าเผชิญหน้ากับนายสันธนะ แต่ถูกคนติดตามของนายสันธนะ เข้าค้ำคอไว้ นายชูวิทย์ไม่พอใจ จนเกิดเหตุชุลมุน ตำรวจควบคุมฝูงชนหลายสิบนายที่เข้าแถวรออยู่ ต้องเข้าห้ามและให้แยกออกจากกัน
นายชูวิทย์ ได้ตะโกนท้าทายนายสันธนะตลอดเวลา และถอดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวออก เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาว พร้อมใส่นวมชกมวย และตะโกนให้นายสันธนะ มาต่อยกันตามประสาลูกผู้ชาย และโยนนวมให้นายสันธนะ
ขณะที่นายสันธนะ ไม่ได้ตอบโต้ แต่ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่าน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระหว่างนั้น นายชูวิทย์ ยังคงตะโกนท้าทายอยู่ตลอดเวลา
นายสันธนะ เปิดเผยว่า มาทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดี นายชูวิทย์ 9 ข้อหา ที่แจ้งไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ลุมพินี และพหลโยธิน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ข้อหายาเสพติดและสถานบริการ ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า แต่มาถูกนายชูวิทย์ ก่อกวนและท้าทาย ยืนยันจะไม่ขอตอบโต้ เนื่องจาก บช.น.เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ทำงานเก่าของตนเอง เมื่อครั้งยังเป็นตำรวจ พร้อมระบุว่า นายชูวิทย์มีอดีตนายพลทหารใหญ่ที่ชื่อ ‘แดง’ อยู่เบื้องหลัง ขอให้ ‘แดง’ ไปจัดการก็แล้วกัน
ระหว่างที่นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้น นายชูวิทย์ยังคงตะโกนท้าทาย พร้อมกล่าวหาว่า นายสันธนะเป็นตำรวจชั้นเลวที่ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่มีลูกน้อง ไม่มีความน่าเชื่อถือ ถ้าจะฟ้องร้องคดี นายสันธนะ มีเงินจ้างทนายความหรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถูกต่อว่าหนัก ๆ นายสันธนะ เริ่มหมดความอดทน จึงตะโกนกลับไปว่า จะไม่ยอมให้นายชูวิทย์ ต่อว่าอย่างเสียศักดิ์ศรี และจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท นายชูวิทย์ ไม่ลดละการท้าทายอย่างต่อเนื่อง จนตำรวจต้องขอให้นายสันธนะ เดินทางกลับไปก่อน
นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการมาเจอหน้านายสันธนะและไม่กลัว เพราะเป็นตำรวจเลวจนถูกไล่ออก ส่วนที่มาร้องเรียนตนเอง ก็อย่าคิดว่ายังมีลูกน้องหลงเหลืออยู่ จากนี้จะไปติดตามนายสันธนะ ไปทุกที่ ถ้าจะไปร้องเรียนเรื่องอะไร พร้อมชี้แจงกรณีถูกวิพากย์วิจารณ์ จากการโจมตีนักการเมืองและพรรคภูมิใจไทย ว่ามีนายหิมาลัย ผิวพรรณ อยู่เบื้องหลัง โดยยืนยันว่า ตนเองกับนายหิมาลัย ไม่เคยเจอกัน แต่เคยจ้างทีมบริษัทรักษาความปลอดภัย สมัยคดีรื้อบาร์เบียร์
นายชูวิทย์ ยังพาดพิงถึง นายเนวิน ชิดชอบ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อาศัยอยู่ในพื้นที่รถไฟ ที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ส่วนสนามฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ก็ใช้เงินหลวงก่อสร้าง ไม่ได้ใช้เงินนายเนวิน รวมทั้งสนามแข่งรถก็อยู่ในพื้นที่ของรถไฟด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.66) จะแถลงข่าวเปิดโปงความชั่วร้ายของพรรคการเมืองและสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่ง ขอให้ติดตาม
