สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ต้องประสานรถดับเพลิงทั่วทั้งจังหวัดเกือบ 30 คัน ระดมสกัดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลแบบครบวงจร ของเทศบาลเมืองสระแก้ว หลังเกิดไฟไหม้ลุกลามจากการเผาไร่อ้อยด้านข้าง ส่งผลทำให้สุนัขจรจัดที่ทางเทศบาลนำไปเลี้ยงไว้กว่า 1,000 ตัว หนีตาย
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 6 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลแบบครบวงจร ของเทศบาลเมืองสระแก้ว ตั้งอยู่พื้นที่บ้านเขาดิน ม.4 ต.หนองบอน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมรถดับเพลิงทั้งเทศบาลเมืองสระแก้ว เทศบาลตำบลวัฒนานคร เขาฉกรรจ์ บ้านแก้ง และรถดับเพลิงจาก อบต.อื่น ๆ เช่น มทบ.19 จำนวนเกือบ 30 คัน เข้ามาเร่งระงับเหตุเพลิงไหม้ รวมทั้งใช้รถแบคโฮพลิกกองขยะที่กำลังลุกไหม้ เพื่อใช้น้ำฉีดดับไฟ ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยกลุ่มควันจำนวนมากได้ลอยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสระแก้ว พร้อมกับแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับบ่อขยะและเขตตัวเมืองสระแก้ว ป้องกันผลกระทบต่อระบบทางหายใจ ขอให้สวมหน้ากากอนามัยด้วยเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ สำหรับศูนย์กำจัดขยะฯ ดังกล่าว มีเนื้อที่ 43 ไร่ ปัจจุบันมีปริมาณขยะจำนวน 50,000 ตัน ในเบื้องต้นคาดว่า เพลิงไหม้ครั้งเกิดจากชาวบ้านที่เผาตอซังอ้อยซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างบ่อขยะ แล้วไฟได้เกิดลุกลามเข้าไปไหม้ภายในบ่อขยะดังกล่าว จนลุกลามต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บ่อขยะดังกล่าวยังเป็นศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลแบบครบวงจรของเทศบาลเมืองสระแก้ว สามารถนำพลาสติกจากขยะมูลฝอยมาผลิตเป็นน้ำมัน รวมทั้งยังเป็นสถานที่เลี้ยงสุนัขจรจัดที่ทางเทศบาลจับมาจากพื้นที่เขตเทศบาลเพื่อนำมาอนุบาลไว้อีกประมาณ 1,000 ตัว ช่วงเกิดเหตุสุนัขบางส่วนที่หากินบริเวณรอบบ่อขยะ ต้องหนีตายมารวมตัวกันในจุดที่ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ทางศูนย์รับแจ้งเหตุ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาล มีนายพนม ฮวดเฮง หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ได้รายงานให้กับ นายตระกูล สุขกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระแก้ว ,นายหฤษฎ์ สุขกุล ,นายนิวัฒน์ วงพานิช และนายวิเชียร ไชยวิริยะโชด รองนายกเทศมนตรี รับทราบและเข้าบัญชาการสั่งงานในการดับเพลิงด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากการประเมินสถานการณ์แล้วว่า รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองสระแก้วน่าจะไม่มเพียงพอเพราะเพลิงได้ไหม้ลุกไหม้รุนแรงมากและขยายเป็นวงกว้างขึ้นจนทั่วพื้นที่เกือบ 40 ไร่ เกรงว่าจะลามเข้าโรงงานกำจัดขยะ ซึ่งอยู่ติดกับกองขยะ ซึ่งปัจจุบันโรงงานนี้ได้มีการผลิตน้ำมันจากการสกัดจากถุงพลาสติกได้วันละประมาณ 5,000-6,000 ลิตร ด้วย
นายวิเชียร ไชยวิริยะโชค รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระแก้ว กล่าวว่า ไฟไหม้บ่อขยะครั้งนี้เกิดจากประชาชนที่เผาไร่อ้อยแล้วลุกลามเข้ามาภายในบ่อขยะ แม้โรงขยะจะมีกำแพงล้อมรอบอย่างดี แต่เมื่อมีกระแสลมแรงทำให้ไฟปลิวเข้ามาในบ่อขยะและลุกไหม้ตั้งแต่ช่วงเที่ยง หลังเกิดเหตุนายกฯ ได้แจ้งไปยังเทศบาลและ อบต.ทั้งจังหวัดขอให้มาช่วยดับเพลิงซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี พร้อมทั้งมีดับเพลิงรถทหารมาช่วยด้วย ซึ่งสามารถป้องกันไว้ได้ในวงจำกัดแต่ยังมีการสแตนด์บายไว้ตลอด 24 ชม.และจะดูแลจนไฟดับสนิท นอกจากนั้น ยังเป็นห่วงว่าไฟจะลุกลามมาที่ศูนย์กำจัดและคัดแยกขยะ เพื่อนำพลาสติกมาผลิตเป็นน้ำมัน ซึ่งถือเป็นแห่งเดียวที่สามารถผลิตน้ำมันได้เดือนละประมาณ 50,000 ลิตร สำหรับส่งให้บริษัทน้ำมันในสิงคโปร์ที่ทำ MOU ไว้ เพื่อนำไปกลั่นอีกครั้ง ให้เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสำหรับใช้กับรถยนต์ต่อไป
ทางด้าน น.ส.วรากร เครือถา อายุ 34 ปี คนงานที่เข้ามาเก็บคัดแยกขยะและของเก่าไปขาย ซึ่งส่วนใหญ่พักอยู่หน้าปากทางเข้าบ่อขยะ เล่าว่า ช่วงเย็นของเมื่อวานได้เห็นด้านหลังของบ่อขยะ ได้มีการเผาไร่อ้อย ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงกลางคืน ทำให้ไฟจากการเผาไร่อ้อยได้ลุกลามเข้ามาจนไกล้บ่อขยะ ซึ่งตนเองยังถ่ายรูปและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กไปเลย และคิดว่า เปลวไฟน่าจะปลิวเข้ามาที่บ่อขยะตั้งแต่เมื่อคืน แล้วค่อย ๆ ไหม้จนเกิดลุกไหม้อย่างรุนแรงในช่วงเที่ยงวัน ประกอบกับช่วงนั้นในบริเวณบ่อขยะมีลมแรงด้วยจึงทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามทั่วบริเวณบ่อขยะ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางเทศบาลเมืองสระแก้ว ได้รายงานสถานการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าวให้กับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รับทราบ ระบุว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงเวลา 12.30 น.เบื้องต้นการเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองสระแก้ว หมู่ที่ 4 ตำบลหนองบอน อำเภอเมืองสระแก้ว ซึ่งศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยฯ มีเนื้อที 43 ไร่ มีเศษขยะ 50,000 ตัน เพลิงได้ไหม้เศษขยะในพื้นที่บริเวณรอบ ซึ่งสถานการณ์ ณ เวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้ โดยมีหน่วยงานเข้าระงับเหตุ และสนับสนุนรถน้ำดังนี้ 1.อบต.สระขวัญ รถน้ำ 3 คัน ,2. อบต.บ้านแก้ง 1 คัน, 3.อบต.ศาลาลำดวน 1 คัน ,4.ทต.ศาลาลำดวน 2 คัน, 5.ทต.ท่าเกษม 2 คัน ,6. อบจ. 1 คัน ,7.ทม.วังน้ำเย็น 2 คัน ,8. ทต.วัฒนาคร 1 คัน ,9.ทม.อรัญประเทศ 1 คัน, 10.ทต.บ้านใหม่หนองไทร 1 คัน ,11.ทต.เขาฉกรรจ์ 2 คัน ,12.มทบ.19 1 คัน ,13. ร.12 พัน.1 รอ. 1 คัน ,14.ทม.เมือง 2 คัน แม็คโคร 2 ตัว ,15.ร.12.รอ.1 1 คัน ,16.สระแก้วธรรมสถาน 1 คัน ,รถพยาบาล 1 คัน ,รวมรถน้ำ 28 คัน แม็คโคร 2 ตัว รถพยาบาล 1 คัน รถไถ 1 คัน
ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสะรแก้ว ได้เคลื่อนย้ายรถแบคโฮ เข้าพื้นที่บ่อขยะเพิ่มเติม ตามคำร้องขอของเทศบาลเมืองสระแก้ว เพื่อลุยเปิดทางให้รถดับเพลิง สามารถขับเข้าไปบริเวณด้านใน เพื่อฉีดน้ำดับเพลิงให้ได้มากยิ่งขึ้น และไฟยังคงลุกไหม้ต่อเนื่อง คาดว่า ต้องใช้เวลาอีก 1-2 วัน จะสามารถดับไฟให้ดับสนิทได้
—————————
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ทีมข่าวสระแก้ว
