กรุงเทพฯ – พรรคเพื่อไทย ประกาศ ยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรี สำหรับผู้หญิงทุกคน
วันที่ 8 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายพรรคเพื่อไทย เพื่อผู้หญิง เนื่องในวันสตรีสากล
1.ยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี ให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทักษะ ปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการหญิงยังเป็นปัญหา จากข้อมูลธนาคารโลกระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ประกอบการหญิงมีจำนวนเพียง 30 % และมีถึง 70% ที่ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในภาคค้าปลีกซึ่งเติบโตน้อย กำไรน้อย และยังขาดเทคโนโลยี พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายต่อยอดความสำเร็จของ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการนำเทคโนโลยี เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุน ทั้งจากภาครัฐและเอกช
2.การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรี สำหรับผู้หญิงทุกคน เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทย เกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 1 พรรคเพื่อไทยได้เห็นถึงความสำคัญของสุขภาวะในเพศหญิง และมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากกามดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันให้ผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยได้จัดเสวนา ‘แนวทางการสร้างสวัสดิการเพื่อสตรี’ เนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2566 โดยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานครและโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า นอกจากจะผลักดันนโยบายฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรีแล้ว ยังพร้อมผลักดันนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค และยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพราะทุกวันนี้พี่น้องผู้หญิงยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน จนต้องไปกู้หนี้นอกระบบ การมีกองทุนสตรีจะช่วยสร้างรายได้ให้พี่น้อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำนโยบายครอบคลุมตั้งแต่แรกเกิดจนถึงยามป่วยไข้ให้สามารถเลี้ยงดูตัวเอง มีอาชีพ และดูแลสุขภาพได้
“ทุกวันนี้เหมือนสังคมป่วย ต้องรับเงินจากรัฐ ไม่สามารถสร้างอาชีพให้ดูแลตัวเองได้ พรรคเพื่อไทยจะเพิ่มทักษะให้สตรี สอดคล้องกับนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ ซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลต้องมีหน้าที่สนับสนุนให้สตรีได้ค้นหาศักยภาพ และเปิดพื้นที่ทักษะให้เป็นรายได้สู่ครอบครัว”
ด้านนางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วยวัคซีน เป็นการป้องกันเพื่อไม่ต้องให้เจ็บป่วยและมีค่าใช้จ่ายมาเบียดบังค่าครองชีพ รายได้แค่ 300 กว่าบาทต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอแม้แต่ค่าวัคซีน
ขณะที่นายจะเด็ด เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ระบุว่า เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องดำเนินการใน 2 ส่วนไปพร้อมกัน คือ การขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ และการให้สวัสดิการที่ครอบคลุม ทั้งสิทธิลาคลอด การมีศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียน เพราะการมีสวัสดิการที่ดีจะช่วยให้คนในสังคมมีความหวัง พรรคเพื่อไทยต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกับประเด็นสังคมให้คนรายได้น้อยรู้ว่าจะมีอนาคตไปในทิศทางใด รวมถึง พรรคเพื่อไทยควรต้องมีนโยบายตอบโจทย์เพศสภาพอื่นที่หลากหลายตลอดจนการคุ้มครองแรงงานอื่นที่ยังไม่ครอบคลุมเช่น อาชีพ ไรเดอร์
ส่วนนายชวิศา เฉิน อนุกรรมการ สมาคมเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ทางเพศ (ประเทศไทย) ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิการผ้าอนามัยฟรี หากรัฐสนับสนุนผ้าอนามัยโดยจับมือกับรายใหญ่ อาจเกิดผลกระทบ แต่ถ้าสนับสนุนทั้งรายย่อยและรายใหญ่ จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยเติบโตได้ ซึ่งดีต่อเพศหญิงที่มีประจำเดือน และเชื่อว่าไม่มีผลกระทบทางลบ
นายชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลาย พรรคเพื่อไทย สรุปว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับสวัสดิการยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มรวมถึงสวัสดิการสุขภาพของผู้หญิง ทั้งเรื่องสิทธิลาคลอด และสวัสดิการเพื่อคนข้ามเพศ ทั้งการลาคลอดเพื่อเลี้ยงบุตรบุญธรรม ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีหลายฝ่ายมีส่วนร่วมช่วยกันผลักดันต่อไป
