สงขลา-สะเดา เจ้าของกระชังปลา 98 ราย เตรียมปิดร่องน้ำท่าเรือ ปตท.สงขลา หากไม่มีบริษัทน้ำมันออกมารับผิดชอบ หลังผ่านมา 1 สัปดาห์ เหตุน้ำมันรั่วไหลเข้ากระชังทำปลาที่เลี้ยงไว้ทยอยตาย
วานนี้ ( 14 มีนาคม 2566 ) จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากเจ้าของกระชังปลาจำนวน 98 ราย ซึ่งได้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง อยู่ที่หมู่ 1 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือ ปตท.สงขลา ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พบกับตัวแทนเจ้าของกระชังปลาทั้ง 98 ราย พร้อมกับใบแจ้งความและซากปลากระพงขาว ปลาหมอทะเล ปลาเก๋าและปลาอั่งจ้อ จำนวนมากซึ่งต่างทยอยน็อคน้ำตาย
จากสาเหตุเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 มีคราบน้ำมันได้ลอยมากับน้ำทะเล เข้าไปในกระชังปลา ซึ่งมีทั้งหมด 528 กระชัง โดยปลาทั้งหมดยังคงเป็นเพียงลูกปลา ที่ชาวบ้านพึ่งจะนำมาลงเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาและเตรียมขายออกสู่ตลาดช่วงเดือนตุลาคม จนถึง พฤศจิกายน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 เจ้าของกระชังปลา ได้แจ้งไปยังหน่วยงานจังหวัดสงขลา ให้ลงตรวจสอบพร้อมกับนำหลักฐานคลิปและภาพจุดที่มีน้ำมันรั่ว มาจากเรือของบริษัทน้ำมันที่จอดเทียบท่าอยู่ท่าเรือ ปตท.สงขลา ซึ่งอยู่ทางเข้ากระชังปลาของชาวบ้าน
จากนั้นเจ้าของกระชังปลาเรียกร้องให้ทางบริษัทน้ำมันออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งผ่านมา 1 สัปดาห์ ทางบริษัทน้ำมันยังไม่ออกมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เพียงแค่ส่งพนักงานบริษัทมาทำการซับคราบน้ำมัน ต่อมาชาวบ้านได้ยื่นข้อตกลง หากบริษัทน้ำมันยังไม่ออกมามารับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย ก็จะดำเนินการรวมตัว ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 น.เพิ่อปิดร่องน้ำหน้าท่าเทียบเรือ ปตท.สงขลา เพื่อไม่ให้เรือขนถ่ายน้ำมันเข้าเทียบท่า
ล่าสุดนายกริชชัย ภู่ฉุน นายอำเภอสิงหนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ตำบลหัวเขา พร้อมเชิญหัวหน้าที่ดูแลบริษัทน้ำมันทั้งหมด 3 บริษัท ซึ่งตั้งอยู่ท่าเรือ ปตท.สงขลา ประชุมหาทางออกร่วมกับเจ้าของกระชังปลาทั้ง 98 ราย ที่ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ 1 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยมี นายวีระชาติ พันธุ์ชนะ สมาชิกเทศบาลสิงหนคร เป็นตัวแทนเจ้าของกระชังปลา 98 ราย ก่อนยื่นข้อเสนอเรียกร้องให้ทางบริษัทน้ำมัน ชดใช้ค่าเสียหาย
โดยนายกริชชัย ภู่ฉุน นายอำเภอสิงหนคร ได้ชี้แจงสรุปหลังรับแจ้งจากเจ้าของกระชังปลาก่อนจะมีการลงพื้นที่ทำความสะอาด พร้อมเก็บตัวอย่างคราบน้ำมันส่งห้องแลป เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคราบน้ำมันชนิดใด เบื้องต้นพบว่าเป็นคราบน้ำมันเกียร์เรือที่รั่วไหลมาจากเรือ แต่ไม่ทราบว่ารั่วมาจากเรือของบริษัทน้ำมันลำไหนและไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทน้ำมันอะไร จึงขอยืดเวลาตรวจสอบหาต้นตอเรือที่ทำน้ำมันรั่วเสียก่อน
หลังจากนายอำเภอสิงหนครชี้แจงสรุปเบื้องต้น ตัวแทนเจ้าของกระชังปลาและเจ้าของกระชังปลา 98 ราย ต่างไม่พอใจที่ทางหน่วยงานและบริษัทน้ำมัน ไม่ยอมสรุปและรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย จึงได้มีการยื่นข้อเสนอเป็นครั้งสุดท้ายให้ดำเนินการรับผิดชอบภายในเย็นวันนี้ (14 มีนาคม ) หากไม่ดำเนินการ ทั้งหมดจะดำเนินการปิดร่องน้ำทันที
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายอำเภอสิงหนคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพื้นที่ตำบลหัวเขาและหัวหน้าผู้ดูแลบริษัทน้ำมัน 3 บริษัท พร้อมด้วยผู้สื่อข่าว ร่วมลงเรือเพื่อตรวจสอบจุดที่มีน้ำมันรั่วออกมารอบๆท่าเรือ ปตท.สงขลา โดยระหว่างตรวจสอบพบว่าทางบริษัทน้ำมันได้มีมาตรการ วางแผ่นแนวกั้นสกัดคราบน้ำมัน หรือเรียกว่า “บูม”ซึ่งเป็นแผ่นช่วยดูดซับคราบน้ำมันที่ลอยปนเปื้อนอยู่บนพื้นผิวน้ำ เพื่อขจัดคราบน้ำมันโดยใช้เวลา 1 ชม. ในการร่วมตรวจสอบ ก่อนจะขึ้นฝั่งและประชุมสรุปหาทางออกช่วยเหลือเจ้าของกระชังปลาทั้งหมดอีกครั้ง
ซึ่งใช้เวลาในการประชุมเพื่อหาข้อยุติครั้งสุดท้ายเป็นเวลา 30 นาที ทำให้เจ้าของกระชังปลาทั้งหมดต่างพอใจที่ทางบริษัทน้ำมันยอมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมมีการยกเลิกปิดร่องน้ำท่าเรือ ปตท.สงขลา
นายกริชชัย ภู่ฉุน นายอำเภอสิงหนคร เปอดเผยว่า ใน 3 บริษัทน้ำมัน ก็จะมี ปตท. คลังน้ำมันร่วมต่างๆ ยอมเข้ามาช่วยเหลือเจ้าของกระชังปลาทั้งหมด โดยทางหัวหน้าผู้ดูแลบริษัทน้ำมัน จะนำเรื่องเสนอต่อบริษัทในเรื่องเงินเยียวยาให้ จากที่ดูสถานการณ์ปลาในกระชังยังไม่ได้ตายลอยเป็นแพ ปลามันก็จะมีตายบ้าง ไม่ตายบ้าง ปลาที่ตายก็จะส่งไปที่ประมงจังหวัดสงขลา เพื่อหาสาเหตุว่าตายจากอะไร และก็จะมีนักตรวจคุณภาพน้ำเรื่อยๆ ว่ามีสารพิษตกค้างหรือไม่
ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือเยียวยาทางบริษัทน้ำมัน ปตท. มีจำนวนจำกัด เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของทางบริษัท ปตท. หากรู้ว่าเป็นความผิดของบริษัทไหนก็สามารถเรียกได้เต็มจำนวน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าความผิดใคร แต่จะเยียวยาตรงนี้มาเฉลี่ยดูว่าสมดุลที่เท่าไร และจัดคุยกันอีกครั้งที่ว่าการอำเภอสิงหนคร ในช่วงบ่าย ของวันที่ 15 มี.ค.นี้
