กระบี่ กลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 30 บุกโรงพัก เรียกร้องความเป็นธรรม จนท.จับพ่อค้ายาแล้วบาดเจ็บ ปะทะจนท. ก่อนระงับเหตุ คุมแกนนำดำเนินคดี หนึ่งในการฝึกทักษะตำรวจ ในแผนซ้อมเผชิญเหตุเสมือนจริง
วันที่ 16 มี.ค.66 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จว.กระบี่ นำโดยพ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่
พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.ธัญตุรงค์ วุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกระบี่ นำตำรวจในสังกัดภูธรกระบี่ ตำรวจชุดสืบสวน ตร.ชุดควบคุมฝูงชน ตร.ชุด S.W.A.T. ตร.จราจร และที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ร่วมฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ โดยสมมุติเหตุการณ์ มีชาวบ้านเป็นกลุ่มชาย๑แกรรจ์กว่า 30 คน บุกโรงพักเพื่อชุมนุมเรียกร้อง และขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด เข้าติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ค้าและทำให้ได้รับบาดเจ็บ จึงรวมตัวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยกล่าวหาว่าชุดจับกุมกระทำเกินกว่าเหตุ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และต้องการให้ดำเนินคดีกับจนท.ชุดจับกุมซึ่งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่นั้น ได้ชูข้อความพร้อมส่งเสียงเอะอะโวยวาย ลั่นหน้าสภ.เมืองกระบี่ ทางจนท.ได้ส่งชุดเจรจาเข้าพูดคุยเจรจาต่อรองกับผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผล ผู้ชุมนุมโห่ไล่ ไม่ยอมเจรจาด้วย พร้อมเรียกร้องให้ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ลงมาเจรจา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่าวตึงเครียด
ต่อมาพ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ลงมาเจรจาต่อรองกับแกนนำผู้ชุมนุม โดยแจ้งข้อกฏหมายตามพ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ให้แกนนำทราบ กลับสร้างความไม่พอใจ และเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้าโดยไม่มีเงื่อนไข ขณะนั้นเหตุการเริ่มรุนแรงกลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มขว้างปาก้อนหิน ปาประทัดยักษ์ และขวดน้ำใส่จนท.ควบคุมฝูงชนจนได้รับบาดเจ็บ กระจกอาคารแตกเสียหาย เหตุการณ์บานปลายถึงขั้นผู้ชุมนุมรวบรวมอุปกรณ์เตรียมที่จะเผาโรงพัก
ขณะเดียวกันพ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ ได้เดินทางมายังหน้าโรงพัก พร้อมสั่งการให้ตำรวจชุด S.W.A.T นำกำลังเข้าระงับเหตุ สามารถจับกุมแกนนำ และผู้ร่วมชุมนุมได้ 5 ราย ยึดอาวุธปืน และมีด นำส่งสภ.อ่าวนาง และสภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นหนึ่งในการซ้อมแผนฝึกฝน แผนเผชิญเหตุเสมือนจริงของสภ.เมืองกระบี่ เพื่อเพิ่มทักษะแก่จนท.ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.อ.เสกสรร แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการซ้อมแผนครั้งนี้ ในฐานะผู้บังคับบัญชา การปฎิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนต้องปลอดภัย ไม่ใช่แค่ปลอดภัยในชีวิต ปลอดภัยในร่างกาย แต่ต้องปลอดภัยในข้อกฏหมายด้วย ตอนนี้ยอมรับว่า ประชาชน หรือแม้แต่โจรเขาศึกษาข้อกฏหมายดูทางออกลึกกว่า จนท. ในฐานะจนท.ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เราต้องรู้มากกว่า จึงจะทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่า ในการซ้อมแผนโดยเฉพาะแผนในวันนี้ หากเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ตำรวจอาจแค่บาดเจ็บ
แต่ปัญหาคือ หลังจบสถานการณ์ไปแล้วตำรวจจะติดคุกหรือไม่ เพราะว่าขั้นตอนเราไม่รู้ กฏหมายเราไม่รู้ เพราะไม่เคยซ้อมกันเลย ซึ่งในเรื่องจริงจะต่างกับการซ้อมแผน หากการปฏิบัติอยู่ในกรอบข้อกฏหมายจะทำให้เรารอดปลอดภัย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: