เพชรบูรณ์-กำนันตำบลเขาค้อเผย ชาวบ้านพอใจ มติ ครม.ปลดล็อกที่ดินเขาค้อ ยันประชาคมถูกต้อง แนะกลุ่มผู้เห็นต่างใช้ช่องขอพิสูจน์สิทธิ์ ดีกว่าตีรวนทำให้แตกแยก
วันที่ 19 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมติ ครม.วันที่ 14 มี.ค.66 ปลดล็อกที่ดินเขาค้อ โดยให้กรมป่าไม้ยกเลิกป่าสงวนฯ และให้กรทธนารักษ์เข้าดำเนินตามกฎหมายที่ราชพัสดุ ต่อมากลุ่มราษฎรเรียกร้องเอกสิทธิที่ดินเขาคัอ ไม่พอใจพร้อมออกมาตอบโต้ โดยอ้างถึงการทำประชาคมไม่เป็นไปตามกฎหมาย ล่าสุดนายพิสิษฐ์พล โพธิ์ลิป กำนันตำบลเขาค้อและประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า มติ ครม.เมื่อวันที่ 14 มีนาคม จริงๆแล้วก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการประชาคมชาวเขาค้อ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วย ทั้งในเรื่องการเพิกถอนที่ดินป่าสงวนฯ และให้เปลี่ยนไปเป็นที่ดินเป็นที่ราชพัสดุ
” ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น เรื่องการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพราะหลังกองทัพภาคที่ 3 ส่งคืนที่ดินบนเขาค้อให้กรมป่าไม้แบ้ว ปรากฎว่า 3 ปีที่ผ่านมาพื้นที่ 4 ตำบลของเขาค้อขาดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพราะติดข้อกฎหมายป่าไม้”กำนัำตำบลเขาค้อกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
นายพิสิษฐ์พลกล่าวอีกว่า ชาวบ้านเสียงส่วนใหญ่ต่างสนับสนุนหลังเพิกถอนป่าให้เป็นที่ดินราชพัสดุ ซึ่งดูแล้วน่าจะเอื้ออำนวยดีกว่าอยู่กับกรมป่าไม้ ส่วนที่เห็นต่างหรือเสียงส่วนน้อยเราก็เคารพ ในภาพรวมราษฎรชาวเขาค้อต่างก็พอใจกับมติ ครม. ดังกล่าว เพราะจะได้มีการพัฒนาในระบบสาธารณูปโภค ซึ่งชาวบ้านต่างเล็งเห็นเป็นหลักก่อน
นายพิสิษฐ์พลกล่าวอีกว่า ส่วนปมการที่มีผู้ถูกดำเนินคดีนั้นจริงๆตัวหลักราว 80-90 เปอร์เซนต์ไม่เกี่ยวกับชาวบ้านเลย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้กระทำผิดเงื่อนไขมากกว่า เช่น ผู้ประกอบการที่มีการต่อเติมอาคารที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของป่าไม้ โดยทางเราก็มีการแจ้งตักเตือนมาโดยตลอด ซึ่งไม่เกี่ยวกับระบบโครงสร้าง ส่วนชาวบ้านที่มีคดีความมีอยู่น้อยมากจนแทบไม่มีผลกระทบเลย เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจาก การลักลอบดำเนินการปลูกสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้องมากกว่า และเป็นที่รุกล้ำโดยอยู่นอกบล็อกที่ดินราษฎรอาสาสมัคร(รอส.)
กำนันตำบลเขาค้อกล่าวอีกว่า ส่วนปมที่มีกลุ่มราษฎรที่คัดค้านไม่เห็นด้วยที่จะให้ที่ดินเป็นที่ราชพัสดุ โดยอ้างการประชาคมไม่ถูกต้อง เร่งรีบให้ข้อมูลด้านเดียวและมีการชี้นำนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการชี้นำแต่อย่างใด แต่การประชาคมก็เผ็นไปตามขั้นตอน ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 ก็เคยมีการทำประชาคมไปแล้วครั่งหนึ่ง ที่สำคัญการทำประชาคมได้ให้ชาวบ้านออกสิทธิ์ออกเสียงกันเต็มที่ตามระบบประชาธิปไตย โดยเห็นได้จากผลการทำประชาคมทั้ง 35 หมู่บ้าน เสียงส่วนใหญ่มี 25 หมู่บ้านต่างเห็นด้วย หลังเพิกถอนป่าสงวนให้เป็นที่ราชพัสดุ ส่วนอีก 10 หมู่บ้านไม่เห็นด้วย ยืนว่าไม่มีการชี้นำหรือบีบบังคับแต่อย่างใด
“ส่วนคนที่นำประเด็นนี้มาอ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูญเสียประโยชน์มากกว่า แต่ทั้งนี้เราก็เคารพความเห็นต่างเหล่านี้รวมทั้งเสียงส่สนน้อย อย่างไรก็ตามมติ ครม.วันที่ 14 มีนาคม 2566 ก็ระบุชัดไม่ตัดสิทธิ์ผู้ที่จะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินฯ ฉะนั้นหากมีหลักฐานคิดว่าน่าจะใช้ช่องทางนี้ดีกว่ามาตั้งแง่หรือคอยป่วน จนทำให้เกิดความสับสนและเกิดความแตกแยกขึ้น”นายพิสิษฐ์พลกล่าว
ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเขาค้อกล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้น ขณะนี้ก็ต้องเร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนาโครงสร้างต่างๆในช่วงที่เคยดำเนินการไว้ตั้งแต่กองทัพภาคที่ 3 ส่งคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ ตรงนี้สามารถจะหยิบขึ้นมาดำเนินการได้ต่อเลย หลังจากต้องหยุดการพัฒนามา 3 ปีเศษ ซึ่งตรงนี้คือปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านเขาค้อจริงๆ และการที่ ครม.มีมติปลดล็อกให้ที่ดิน 4 ตำบลเขาค้อ ทำให้สถานการณ์มีความขัดเจน ลดความตึงเครียด โดยเฉพาะชาวบ้านเขาค้อมีความรู้สึกพึงพอใจและคลายความวิตกกังวลไปได้เยอะมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: