สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองร่วมกันจับกุมแก๊งชาวจีน ก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท กับ นศ.สาวชาวจีน ขณะเตรียมหนีออกชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อส่งตัวให้กับ สน.ทองหล่อ ท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการแจ้งประสานจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น.5 ให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว สกัดจับกุมแก๊งชาวจีน ก่อเหตุจับนักศึกษาสาวชาวจีนไปเรียกค่าไถ่ เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท เหตุเกิดในท้องที่ สน.ทองหล่อ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า แก๊งชาวจีนกลุ่มนี้ มีนายราน เสียวหย่ง อายุ 52 ปี สัญชาติจีนและเพื่อนร่วมแก๊งคือ นายเซิง โป สัญชาติจีน ร่วมกันก่อเหตุ โดยนายราน และนายเซิง เตรียมหลบหนีออกไปฝั่งประเทศกัมพูชา บริเวณชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงประสาน พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว และกองร้อยทหารพรานที่ 1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ตรวจสอบเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ชายแดน กระทั่งพบชาวต่างชาติต้องสงสัยลักษณะคล้ายชาวจีน จำนวน 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน เดินเท้าอยู่บริเวณริมถนนสุวรรณศร บ้าน กม.5 ฝั่งซ้าย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มุ่งหน้าจะไปที่ชายแดนจึงเข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบอีกว่า ชาวจีนทั้ง 4 คน มีหนังสือเดินทางจีน ประกอบด้วย นายราน เสียวหย่ง, นายเซิง โป, น.ส.เนี่ย ลิเจีย และ น.ส.เนี่ย ฉีเจิ้น ซึ่งนายราน และนายเซิง เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอุ้มรีดค่าไถ่นักศึกษาสาวชาวจีน ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ตามที่ได้รับการประสานมา จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาที่ สภ.คลองลึก เพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนส่งมอบตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.5 และเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง บช.น.ควบคุมตัวไปส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกายจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้นโดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ”
ข่าวน่าสนใจ:
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อเกษตรกรพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการบริการทางวิชาการและได้รับการแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการจับกุมชาวจีนดังกล่าว เกิดขึ้นในวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น.โดยมี Ms.Weng MengLu สัญชาติจีน อายุ 32 ปี เป็นผู้เสียหาย ขณะเดินทางมาทานอาหารที่ร้าน TORISAWA22 ถนนเอกมัย กับเพื่อนสาวชาวจีน ชื่อเสี่ยวอี้ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันได้ประมาณปีกว่า จากนั้นเวลาประมาณ 20.26 น.ได้มีรถตู้อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 1ขค-6336 กทม. ได้ขับเข้ามาบริเวณลานหน้าร้าน ต่อมา เวลาประมาณ 21.53 น. ขณะที่ผู้เสียหายกับเพื่อนกำลังเดินออกจากร้าน เพื่อนผู้เสียหายได้พยายามพาเดินไปใกล้รถตู้อัลพาร์ด ซึ่งได้มีชายที่นั่งอยู่ในรถ ได้เข้าบีบคอผู้เสียหาย แล้วกระชากตัวผู้เสียหายไปขึ้นรถตู้อัลพาร์ด โดยมีเพื่อนสาวของผู้เสียหายขึ้นรถไปด้วย พร้อมกับปิดตา มัดมือ ปิดปาก จากนั้น กลุ่มคนร้ายได้ขับรถอัลพาร์ดออกไปไม่ทราบว่าไปที่ใด ระหว่างที่อยู่บนรถกลุ่มคนร้ายได้ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายของผู้เสียหาย และบังคับให้ผู้เสียหายโอนคริปโตสกุล USDT จำนวน 200,000 USDT โดยผู้เสียหายได้ยอมโอนคริปโตให้ 8,014 USDT หรือประมาณ 2.7 แสนบาท และโอนเงินสด ประมาณ 250,000 หยวน หรือประมาณ 1,240,788 บาท
นอกจากนั้น วันที่ 17 มี.ค.66 เวลา 08.15 น. กลุ่มคนร้ายได้ให้ผู้เสียหายติดต่อกับแฟน เพื่อโอนเงินมาให้กลุ่มคนร้าย ต่อมาแฟนของผู้เสียหายจึงโอนเงินคริปโตอีก 50,000 USDT หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท เข้ามายังแอปพลิเคชัน imtoken บัญชีของผู้เสียหาย เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว กลุ่มคนร้ายได้นำโทรศัพท์มือถือไปดำเนินการโอนเงินต่อโดยไม่ทราบว่าบัญชีปลายทางเป็นบัญชีใด จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ลบแอป imtoken ดังกล่าวของผู้เสียหายไป และลบรูป กับแชตในแอป Wechat ทั้งหมดที่มีการสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับญาติที่ประเทศจีน ก่อนจะปล่อยผู้เสียหายลงรถในย่านมีนบุรี ผู้เสียหายจึงใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ถ่ายภาพสถานที่ดังกล่าวไว้ เวลาประมาณ 09.40 น. ซึ่งภายหลังก็ทราบว่า เสี่ยวอี้ ก็ได้ถูกปล่อยตัวมาเหมือนกัน จากนั้นจึงได้เรียก taxi กลับมาที่พัก โดยระหว่างทางได้มาส่งเสี่ยวอี้ ที่ห้างพารากอน เมื่อผู้เสียหายกลับมายังที่พักที่คอนโด ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: