ตรัง -ยางพาราราคาตกต่ำ ทำสหกรณ์แปรรูปยางแผ่นรมควันในสังกัด กยท.และเอกชนรายย่อย กว่า 50 แห่ง ขาดทุนระนาว ขณะนี้น้ำยางสดเหลือกก.ละ 45-48 บาท ขณะที่ยางแผ่นรมควันก็เช่นกัน เฉพาะในสังกัด กยท.มีกว่า 30 ต้องหยุดผลิตยางแผ่นมานานร่วม 2-3 เดือน ขณะที่ชาวสวนยางส่วนหนึ่งยังทนกรีดยาง แม้จะเข้าสู่ช่วงปิดกรีตก็ตาม แบบกรีด 1 วัน หยุด 2 วัน จากเดิมกรีดติดต่อกัน 3-4 วันหยุด 1 วัน เพื่อให้พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัว โอดเงินประกันรายได้ชาวสวนยางที่ได้รับน้อยนิดคนไหนที่ไม่ถึง 10 ไร่ ได้ไม่ถึง 1,000 บาท แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ประกาศเลือกตั้งครั้งใหม่ พรรคไหนประกาศนโยบายแก้ปัญหาราคายางที่เป็นรูปธรรม ชาวสวนยางจะเทคะแนนให้
ปัญหาราคายางตกต่ำ ยังคงเป็นอยู่ต่อเนื่อง ล่าสุด น้ำยางสดเหลือกกก.ละ 45 -48 บาท ทำให้ชาวสวนยางพาราได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แม้ขณะนี้จะเป็นเข้าสู่ช่วงฤดูปิดกรีดแล้วก็ตาม แต่ชาวสวนยางอีกจำนวนมาก ก็ยังฝืนทนกรีดต่อไป จากเดิมกรีด 3-4 วัน หยุด 1 วัน ก็มากรีด 1 วัน หยุด 2 วัน เพื่อพอให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว เนื่องจากที่ผ่านมาประสบปัญหาราคายางตกต่ำต่อเนื่อง ประกอบกับค่าครองชีพสูง ทำให้ไม่มีเงินเก็บออมไว้ใช้จ่ายในช่วงฤดูปิดกรีดนี้ โดยแต่ละคนบอกว่า น้ำยางหด เหลือไม่ถึง 2 ส่วน จาก 4 ส่วน แต่ก็ต้องฝืนทนกรีด บางคนยังค้างหนี้ ธกส.ถึงกำหนดส่งดอกเบี้ย แต่ยังไม่มีเงิน และยังต้องใช้จ่ายในครัวเรือน ขณะเดียวกันเงินประกันรายได้ชาวสวนยางที่รัฐจ่ายส่วนต่างมาให้ครบกก.ละ 60 บาทนั้น ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ลูกจ้างกรีดยางบางส่วนไม่ได้รับ เพราะนายจ้างไม่แบ่งให้ เนื่องจากนายจ้างเองก็ขาดทุน วอนรัฐหันมองชาวสวนยางขอให้ช่วยขยับราคาให้ได้ประมาณ กก.ละ50-60 บาท ก็พออยู่ได้ บางคนไม่มีเงินใส่ปุ๋ยมาตลอดทั้งปี แต่ต้องทนกรีด เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว โดยชาวสวนบอกว่า ปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหม่จะรอดูว่าพรรคการเมืองไหนประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาราคายาง และราคาปาล์มที่สามารถทำได้จริง จะเลือกพรรคการเมืองนั้น
ขณะที่ปัญหาราคายางตกต่ำนั้นเป็นทั้งระบบ ทั้งน้ำยางสด ยางแผ่นดิบ และยางแผ่นรมควัน ล่าสุด โรงงานแปรรูปยางแผ่นรมควัน ทั้งของเอกชน และสหกรณ์แปรรูปยางแผ่นรมควันสังกัด กยท.รวมกันไม่ต่ำกว่า 50 แห่ง ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องหยุดแปรรูปน้ำยางสดเป็นอย่างแผ่นรมควันอย่างสิ้นเชิง เพราะน้ำยางสดราคาสูงกว่าราคายางแผ่นรมควัน หรือบางวันห่างกับราคายางแผ่นรมควันเพียงเล็กน้อย ทำให้ตลอดบัญชีสหกรณ์ 2565 นี้ สหกรณ์และโรงงานแปรรูปยางแผ่นรมควันทั้งหมดขาดทุนระนาว แต่ละแห่งจำนวนหลายแสนบาทจนถึงนับล้านบาท ทำให้ต้องหยุดผลิตยางแผ่นรมควันทั้งหมด การดำเนินกิจการสหกรณ์หยุดชะงักขาดเงินทุนหมุนเวียน เสี่ยงสหกรณ์แปรรูปยางทั้งหมดจะล้มหายไปจากระบบ และจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง เพราะหากไม่มีสหกรณ์ช่วยซื้อพยุงราคาน้ำยางสด จะคงเหลือแต่โรงงานเอกชนใหญ่ๆ จะยิ่งกดราคาชาวสวนไม่มีใครแย่งปริมาณผลผลิต ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบราคารับซื้อยางหน้าโรงงานใหญ่ เห็นชัดเจนถึงปัญหา เช่น ราคา เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กก.ละ 47 บาท , ยางแผ่นดิบคุณภาพ กก.ละ 46 บาท ,และน้ำยางสด กก.ละ 47.50 บาท ราคาน้ำยางสดสูงกว่าราคายางแผ่นรมควัน กก.ละ 50 สตางค์ ขณะที่ราคายางแผ่นดิบต่ำกว่าราคาน้ำยางสดกก.ละ 1.50 บาท ส่วนวันที่ 16 มีนาคม ราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กก.ละ 45 บาท , ยางแผ่นดิบคุณภาพ กก.ละ 43 บาท ,และน้ำยางสด กก.ละ 45.50 บาท ราคาน้ำยางสดสูงกว่ายางแผ่นรมควัน กก.ละ 50 สตางค์ โดยราคายางแผ่นดิบต่ำกว่าราคาน้ำยางสดกก.ละ 2.50 บาท เป็นหลักฐานชัดเจ ยืนยันการผลิตยางแผ่นดิบ และการแปรรูปยางแผ่นรมควันอยู่ในระดับที่ขาดทุน ซึ่งหากอยู่ในภาวะปกติ ราคายางแผ่นดิบจะต้องสูงกว่าราคาน้ำยางสดไม่ต่ำกว่ากก.ละ 3-4 บาท จึงจะคุ้มทุน และราคายางแผ่นรมควันจะต้องสูงกว่าราคายางแผ่นดิบ และสูงกว่าราคาน้ำยางสดกก.ละ 6-8 บาท จึงจะคุ้มทุน
ข่าวน่าสนใจ:
นายชอบ ประจงใจ ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บอกว่า สหกรณ์ได้หยุดแปรรูปน้ำยางสด เป็นยางแผ่นรมควันมานาน 2-3 เดือนแล้ว เหตุราคาน้ำยางสดกับยางแผ่นรมควันแทบจะเท่ากัน และบางวันราคาน้ำยางสดสูงกว่ายางแผ่นรมควัน ทำให้สหกรณ์ขาดทุน เพราะในการแปรรูปยางแผ่นรมควันนั้น ค่าบริหารจัดการจะต้องไม่ต่ำกว่า 6-8 บาท จะต้องขายยางแผ่นรมควันให้ได้มากกว่าราคาน้ำยางประมาณ 6-8 บาท จึงจะได้กำไร แต่ปีนี้ขาดทุนทุกแห่ง กว่า 30 แห่ง ของสหกรณ์สังกัด กยท.ขาดทุนทั้งหมด หยุดผลิตยางแผ่นรมควันทั้งหมดแล้ว ทุกแห่งเป็นหนี้ธนาคาร ส่วนของสมาชิกที่ยังกรีดอยู่ขณะนี้ทางสหกรณ์ก็รับซื้อไว้ให้ แต่นำน้ำยางสดไปขายโรงงาน
จะไม่แปรรูป ซึ่งในการนำน้ำยางสดไปขายโรงงานนั้น ก็ถูกกดคุณภาพน้ำยางอีก ทำให้เดือดร้อนหนัก
เช่นเดียวกับนายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรอุตสาหกรรมตรัง จำกัด ก็นำดูโรงงานผลิตยางแผ่นรมควัน ซึ่งขณะนี้ก็หยุดผลิตยางแผ่นรมควันเช่นกัน โดยหยุดผลิตมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว หยุดตั้งแต่ก่อนถึงฤดูปิดกรีด เหตุเพราะขาดทุน ราคาน้ำยางสดสูงกว่าราคายางแผ่นรมควันทำให้ปีนี้สหกรณ์ขาดทุนประมาณ 2 -3 แสนบาท ก่อนหน้านี้ก็พยายามย่อส่วนการรับซื้อน้ำยางสด รับซื้อเฉพาะสมาชิกโดยตรง ส่วนของกลุ่มที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆตัดออกไปไม่รับซื้อ เพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนจำนวนมาก แต่มาตอนนี้หยุดรับซื้อน้ำยางสด หยุดผลิตยางแผ่นรมควันสิ้นเชิง สมาชิกที่ยังกรีดอยู่บ้างก็ให้ไปขายตามจุดรับซื้อต่างๆ เอาเอง ซึ่งสหกรณ์ทุกแห่งเดือดร้อนหนักทุกแห่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: