เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดีแก๊งชาวจีน อุ้มเมีย และพี่ชาย ของนักธุรกิจชาวจีนไปรีดค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 5 ล้านบาท ในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.หนองปรือ เมื่อช่วงสายของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมี ตำรวจชลบุรี สืบสวนภาค 2 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วมบรรยายสรุปความคืบหน้าของคดี ซึ่งมีการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่เฝ้าติดตามคดีอย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ลงมาติดตามความคืบหน้าของคดีจีนอุ้มจีน ซึ่งในเบื้องต้นออกหมายจับแล้ว 4 ราย บินออกนอกประเทศไปแล้ว 3 ราย จับได้ 1 ราย ซึ่งทางเราได้ประสานกับตำรวจประเทศจีนแล้วเพื่อติดตามจับกุมกลับมาดำเนินคดดีในประเทศเรา โดยจะออกหมายแดงส่งไปยังประเทศจีน ส่วนจีนอีกคนเราได้สอบปากคำแล้วแต่ยังไม่ให้ความร่วมมือ
ส่วนพฤติการณ์ของแก๊งชาวจีนนี้ เป็นขบวนการข้ามชาติ ที่ทางประเทศจีนกวาดล้าง เลยหลบหนีมาฝั่งไทย กัมพูชา และลาว แล้วมาทำธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ โดยการเข้ามาอยู่ในเมืองพัทยาแบบผิดกฏหมาย แล้วก็มาก่ออาชญากรรมทวงเงินกัน โดยการวางแผนจากประเทศจีนและมีคนชี้เป้าในประเทศไทย ว่าคนกลุ่มนี้มีเงินโดยมีคนไทยชี้เป้า แล้วก็ดำเนินการอุ้มไปรีดเงินโดยการจับไปกักขังบนเขา พอได้เงินไปบางส่วนแล้วก็บินกลับประเทศไปทันที โดยทางเราได้ประสานไปยังประเทศจีนแล้ว
นอกจากนั้นยังจะขยายผลคนจีนผู้เสียหายดังกล่าวเป็นมีการว่าจ้างอุ้มบุญ เพราะคนจีนมีลูกเป็นคนไทย โดยมีผลตรวจจากโรงพยาบาลชื่อดังที่ กทม.ว่าดีเอ็นเอตรงกัน และยังมีบัตรประจำตัวสีชมพูออกให้โดยจากเขตบางรัก เราก็จะไปดูว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การช่วยเหลือหรือไม่ เพราะการอุ้มบุญเรามีข้อมูลอยู่แล้ว โดยผู้หญิงไทยได้ค่าว่าจ้างครั้งละ 400,000 – 500,000 บาท ซึ่งจะได้สิทธิอยู่เมืองไทย ถ้าปล่อยไว้ก็จะมายึดเมืองไทย
โดยต่อจากนี้ได้สั่งกำชับให้ตรวจสอบเอ็กซเรย์คนต่างชาติที่อยู่ในจังหวัดชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นคนจีน หรือต่างชาติที่มาอยู่ว่ามาอยู่แบบใด โดยให้ ตม.เป็นหลัก กับ ตร.ทท. โดยให้ท้องที่สนับสนุน เพราะตำรวจท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยว ตม.ต้องดูแลต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยมีการคาดโทษทั้ง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ ตำรวจท่องเที่ยว หากมีเหตุการณ์แบบนี้อีกต้องมีการดำเนินการมีคนรับผิดชอบ
