X

ทนายตั้ม รับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกครูแก้วและลูกสาว แจ้งความหมิ่นประมาท

นครพนม – ทนายตั้มเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาหลัง ส.ส. ศุภชัย โพธิ์สุ พรรคภูมิใจไทย และลูกสาว แจ้งความหมิ่นประมาท

วันที่ 29 มี.ค.66 ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม นายษิทธา เบี้ยบังเกิด ทนายความ นางสาวช่อฉัตร โตชูวงค์ นักธุรกิจ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กวินธ์พงศ์ ดำรงดาลัยพงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ความผิดฐาน “ร่วมกันหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา” โดยทั้งสองรับทราบข้อกล่าวหา และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยทนายตั้มและพวกถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2565 ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้จัดให้มีการแถลงข่าว โดยการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ระบุว่า “…สรุปแล้วผู้ก่อเหตุคนนี้ นอกจากว่าเขาจะมีตำแหน่งทางรัฐสภาแล้ว เขายังไปเป็น ตอนนี้ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา นายก อบจ. และเป็นสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยนะครับ ก็เอาง่ายนะ ก็เหมือนกับเป็นลูกเขยอ่ะ ลูกเขยของรองประธานสภาคนหนึ่ง ไม่บอกว่าคนไหนนะครับ พี่พี่สื่อมวลชนพากันไปเดาเอาเอง….” ส่งผลให้ผู้ที่รับชมการแถลงข่าวดังกล่าว เข้าใจว่า ผู้กล่าวหา ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับนายธนบวรฯ กรณีของ น.ส.ช่อฉัตร ทั้งที่เป็นความจริงแล้ว ผู้กล่าวหา ยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีครอบครัว แต่อย่างใด ซึ่งถือได้ว่าเป็นความที่ ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ให้สัมภาษณ์ เป็นการใส่ความให้ผู้กล่าวหา เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม พฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้รับตัวผู้ต้องหา ไว้เพื่อดำเนินคดีต่อไป ได้ทำการสอบปากคำแล้วปล่อยผู้ต้องหาไป โดยไม่ได้จับกุมหรือควบคุมตัวไว้ ซึ่งผู้ต้องหารับว่า จะมาตามกำหนดนัดของพนักงานสอบสวน เพื่อการสอบสวนต่อไป

นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเรียกมาเพื่อที่จะรับทราบข้อกล่าวหา กรณีที่ รองประธานสภาคนหนึ่ง และ บุตรสาว และนายธนบวร จากการที่ดำเนินคดีที่ตนหมิ่นประมาทจากการที่ตนให้สัมภาษณ์ในกรณี ของคุณช่อฉัตร นักธุรกิจ แถลงข่าวที่สำนักงานษิทธา ลอว์เฟิร์ม วันนี้ตำรวจได้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตนมาตามหมายเรียก ไม่มีความหนักใจไม่มีการหมิ่นประมาทใคร ส.ส.ที่มาดำเนินคดีกับตน ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเค้าเลย หรือแม้แต่ลูกสาวเค้าก็ตาม แจ้งความให้ตนลำบาก วันนี้มี 3 สำนวน จริง ๆ นัดกันคนละวัน แต่ตนได้ทำเรื่องนี้ร้องไป จึงได้รับอนุญาตให้เป็นวันเดียวกัน ปฏิเสธทั้ง 3 คดี เพราะไม่ได้ทำความผิด ทนายอีกคนของคุณช่อฉัตรก็โดนดำเนินคดีด้วย คุณช่อฉัตร โดน 5 คดี ตนโดน 3 คดี มีคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คุณช่อฯ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา 3 เรื่อง 2 เรื่องคือการขอเอกสารตนไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ไปนั่งฟัง นอกจากคดีนี้มีการร้องวินัยตำรวจ ผกก.และพนักงานสอบสวนทั้ง 2 คน 3 คดี เนื่องจาก ผกก.ไม่กำกับดูแล แต่แยกเป็น 3 คดี ทั้ง ๆ ที่อยู่ในโรงพักเดียวกัน ร้องร้อยเวรในคดีของ ส.ส.ศุภชัย ว่า และตัวลูกสาว โดยมีการออกหมายเรียกตน ซึ่งตนไม่ได้ว่าเค้าเป็นคนไม่ดีหรือว่าอะไรยังไง ได้มีการร้องให้มีการสอบวินัยร้ายแรง ตำรวจโรงพักนี้ ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร้ายแรงเข้ามาสอบในเรื่องนี้ ร้องเรียนเมื่อประมาณ 1-2 อาทิตย์ที่แล้ว หลังจากที่ได้รับหมายมาหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่ส่งหมายมา 1 ครั้ง ตนก็ทราบแล้ว ก็แจ้งวันที่จะเดินทางมารับทราบ แต่ก็ส่งหมายเรียกมาอีกหลายครั้ง เพื่อที่จะออกหมายจับ เรามีกำหนดนัดไปแล้ว

นอกจากนี้ก็ได้มีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจไป 3 ราย คือ ผกก. สภ.เมืองนครพนม พนักงานสอบสวน 2 คน ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่ามีความผิดทางวินัย ก็จะมีการลงโทษต่อไป ผบก.ภ.จว.นครพนม แจ้งว่า ตามระเบียบสามารถจะโอนเรื่องไปที่ กทม.ได้ อยู่ที่ทาง กทม. ว่าจะรับหรือไม่

นางสาวช่อฉัตร โตชูวงศ์ กล่าวว่า สำหรับการมาครั้งนี้มีความหนักใจ ข้อหาที่ได้รับแจ้งคือหมิ่นประมาทเป็นส่วนมาก 5 คดี แต่ข้อหาเดียวคือ หมิ่นประมาทธรรมดา คือตนเอาเรื่องข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนปกป้องในสิทธิ์ของตน โดยนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเปิดเผยในที่สาธารณะ หลักฐานอ่อนมาก แทบไม่มีอะไรเลย เป็นการกล่าวหาเท่านั้นเอง ว่าเราหมิ่นประมาทเค้า เจตนาในการฟ้อง คือฟ้องปิดปาก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน