ร้อยเอ็ดสมัคร สส.วันแรกคึกคัก 8 เขตสมัครแล้ว 75 คน
สนามเลือกตั้ง สส.จังหวัดร้อยเอ็ด คาดว่าจะต่อสู้กันหนักของผู้สมัครจากพรรคใหญ่อีกจังหวัดหนึ่ง โดยเฉพาะเขตน่าจับตามองคือ เขต 1 ระหว่านายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และ สส.บ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่หลายสมัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีผู้ท้าชิง คนหนุ่มไฟแรง นายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ จาก พรรคเพื่อไทย อีกเขตคือและเขต 8 ซึ่งเป็นศึกสายเลือด ชิงเก้าอี้กัน ระหว่างนางสาวชญาภา สินธุไพร น้องสาว สส.น้ำ จิราพรสินธึไพร อดีดต สส.เขต 5 จาก พรรคเพื่อไทย สายเลือดอดีด สส.นิสิต สินธัไพร แกนนำ นปช สู้กับ นางจุรีพร สินธุไพร ผู้เป็นอา เคยอยู่พรรคพลังประชารัฐ เปลี่ยนค่ายมาอยู่พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งผู้เป็นอาเคยต่อสู้กับทีมเพื่อไทย ในสนามเลือกตั้ง นายกอบจ.ร้อยเอ็ดมาแล้วและแพ้ขาด
มารอบนี้นางสาวจิราภรณ์ สินธุไพร ดาวสภา (ฉายานักฆ่าขนตางอน) ผู้สมัครส.สร้อยเอ็ดเขต 5 ควงน้องสาวชญาภา ลุยสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดยอาศัย คะแนนนิยมของพรรค และแฟนคลับ ที่เป็นเยาวชนและวัยรุ่นกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่เป็นแรงหนุน
วันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 08.30 น ณ สถานที่รับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 – 8 จังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ 3 – 7 เมษายน 2566 หอประชุมราชบุรุษจันทร์ อุตมะพรหม รร.ร้อยเอ็ดวิทยาลัย ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและคณะกรรมการ
นายดัมพ์ สุริโย ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และคณะกรรมการเข้าร่วม โดยกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในวันที่ 3 – 7 เมษายนเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น.- 16.30 น. สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ด มีการแบ่งเขตเลือกตั้งทั้งหมด 8 เขต ถ้าหากผู้สมัครมาพร้อมกันก่อนเวลา 08.30 น.จะต้องจับสลากหาผู้เข้าสมัครก่อนหลัง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจหลักฐานของผู้สมัครอย่างละเอียด เพื่อความพร้อมในการสมัครหากถึงเวลาเปิดรับสมัคร และผลการรับสมัครส่วนใหญ่จะตกลงกันไม่ได้จะต้องอาศัยการจับสลาก 2 ครั้งคือครั้งที่ 1 คือ ใครจับก่อนหลังและครั้งที่ 2 ใครได้เบอร์อะไรก็จะเป็นเบอร์นั้นเลย ทุกเขตไม่มีปัญหา แต่ มีปัญหาที่เขต 6 เนื่องจากผู้สมัคร ลำดับที่ 5 ก็คือนายปิยรัช หมื่นแสน หลังจากที่จับเบอร์ได้ เบอร์ 5 แต่ภายหลังการตรวจเอกสารปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่พบใบรับรองจากหัวหน้าพรรคที่จะลงสมัคร จึง เกิดปัญหาขึ้น หลายชั่วโมงเพราะมีผู้สมัครยื่นเอกสารแล้วจำนวน 10 คนและทุกคนได้เบอร์ไปแล้ว ทางผู้สมัครและเจ้าหน้าที่จึงได้มีการ พูดคุยกันและเจรจากันในที่สุดก็ได้มีการสลับเบอร์คือ เอานายปิยรัช หมื่นแสนเบอร์ 5 ออกไพักไว้ก่อน แล้วเอาผู้สมัคนที่ได้เบอร์สุดท้ายที่จับได้เบอร์ 10 คือนายกิตติ สมทรัพย์ จากพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนมาเป็นเบอร์ 5 แทน ก่อนที่ทุกอย่างก็จบด้วยดีในเวลา 11.50 น. จากการรับสมัคร ตั้งแต่ เช้า 08.30 น. ถึง 12.00 น วันนี้มีผู้มายื่นสมัครและได้เบอร์ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 75 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: