กรุงเทพฯ – นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ฝาก กกต.ตรวจสอบพรรคซื้อเสียง มั่นใจ ได้ 5 เก้าอี้ กทม. กัดจิกคนการเมือง พรรคใดหน้าเหี่ยว ๆ เดินไม่ค่อยไหว ‘เพราะทำชั่วมาก’ ส่วนคนของพรรคไทยศรีวิไลย์ ทั้งสวยทั้งหล่อเพราะไม่ค่อยได้ทำชั่ว
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งรอบนี้ พรรคไทยศรีวิไลย์ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั้งหมด 35 จังหวัด รวม 107 เขต กทม. ส่ง 5 เขต บึงกุ่ม, ดุสิต, บางซื่อ, บางแค ส่วนอีกเขตเอกสารยังไม่พร้อม มีความมั่นใจมาก ว่า ทั้ง 5 เขตจะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน หากไม่มั่นใจจะไม่ส่งลง
พร้อมฝากไปถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคที่ซื้อเสียงด้วย ส่วนพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่มีการซื้อเสียง ต้องการเสียงที่บริสุทธิ์จากประชาชน เน้นขายแต่นโยบาย เพราะต้องการดูแลพี่น้องทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ตายแล้วก็ยังดูแล รวมถึงนโยบายด้านอื่น ๆ อย่างบัตรคนจน 3,000 บาท นโยบายเงินทำศพ ศพละ 5 แสนบาท เบี้ยคนพิการ 3,000 บาท เปิดกาสิโนระดับเวิร์ลคลาส สำหรับต่างชาติ อาจจะเปิดที่ กทม. หรือไม่ก็ จ.เก็ต หรือจะเป็น จ.เชียงใหม่ ก็ได้ เพื่อนำเงินของต่างชาติมาดูแลคนจน 20.5 ล้านคน ทั่วประเทศจะได้สบายสักที
นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่เป็นพรรคที่สร้างปัญหา ไม่สร้างหนี้ เป็นพรรคที่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ชีวิตคน อย่างนายกฯ เองที่เป็นทหาร แต่กลับไม่สามารถดูแลชีวิตเหล่าทหารผ่านศึกที่เคยออกรบได้เลย เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกที่เคยได้ปีละ 1,000 บาท จะเปลี่ยนเป็นเดือนละ 3,000 บาท ดูแลกันไปจนสิ้นอายุขัย
ข่าวน่าสนใจ:
- รับสมัครเลือกตั้ง สจ.สระแก้ว วันแรกคึกคัก พรรคประชาชนส่งทีมลงสมัครหลายพื้นที่ ส่วนอดีต สจ.บางคนไม่ลงเพราะต้องลงเลือกตั้งท้องถิ่น
- “วิทยา แก้วภราดรัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันการแก้ปัญหาน้ำมันแพง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประชาชน ไม่หวั่นปัญหาพรรคที่เกิดขึ้น
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ก็ 3,000 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุเอาไปเลย 5,000 บาท ทุกนโยบายสามารถทำได้จริง เพราะเงินที่นำมาใช้นั้น เป็นเงินที่ได้มาจากการเล่นการพนันที่ถูกต้องตากฎหมาย ไม่ใช่เป็นเงินกู้ หลายพรรคมีนโยบายใช้แต่เงิน แต่ไม่มีที่มาหรือหาเงินมาใช้ไม่ได้ ขอเพียงให้ได้ไปนั่งอยู่ในสภาฯ ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อ 20-30 ที่นั่ง แค่นี้ก็สามารถขับเคลื่อนนโยบายของประชาชนได้แล้ว
“หากผมแก้ปัญหาได้ซักครึ่งหนึ่งของปัญหาทั้งหมด ผมก็เลิกเล่นการเมืองแล้ว ไม่อยากยึดติดอำนาจ ไม่อยากเสพติดอำนาจเหมือนคนบางคน ที่ไม่ยอมลงจากอำนาจ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: