นครพนมเขต 4 ศึกเลือกตั้ง 5 เส้า อดิศร- เสริมศักดิ์ แกนนำเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียงช่วยลูกทีมที่ นครพนม
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 บรรยากาศการปราศรัยหาเสียงที่นครพนมเริ่มเข้มข้นขึ้นโดยเฉพาะที่สนามเลือกตั้งเขต 4 ที่พรรคเพื่อไทยส่งนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ซึ่งเป็นน้องชายของนายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ อดีตสส.7 สมัยลงสู้ศึกในครั้งนี้ โดยในวันนี้พรรคเพื่อไทยได้เปิดปราศรัยย่อยรวมสามจุดคือในช่วงเช้าเปิดปราศรัยที่บ้านหนองสังข์ อ.นาแก จังหวัดนครพนม ส่วนตอนเที่ยงมาเปิดปราศรัยที่วัดป่ามหาชัย อ.ปลาปาก ส่วนในตอนเย็นเปิดปราศรัยที่บ้านกุรุคุ ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งในการเปิดปราศรัยนอกจากตัวนายณพจน์ศกร และนายอรรถสิทธิ์ พี่ชายจะช่วยกันปราศรัยแล้วยังมีขุนพลของพรรคเพื่อไทยอย่างนายอดิศร เพียงเกษ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมควงคุณนายระเบียบรัตน์ ศรีภรรยามาช่วยปราศรัยหาเสียงอย่างเข้มข้นอีกด้วย
โดยนายณพจน์ศกร เปิดเผยว่าจากการลงพื้นที่หาเสียง ปรากฏว่ากระแสพรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับดีเกินคาดจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม จึงไม่มีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับการที่ต้องต่อสู้กับเจ้าของพื้นที่เดิมที่เป็น สส.ของพรรคเพื่อไทยอย่างนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ที่หันไปอยู่กับพรรคไทยสร้างไทย เนื่องจากมั่นใจว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถครองใจชาวนครพนมโดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 4นี้อย่างแน่นอนเพราะตนเชื่อมั่นว่าชาวนครพนม ยังเชื่อมั่นและอยู่กับพรรคเพื่อไทยตลอดไป
ส่วนบรรยากาศการปราศรัยย่อยในแต่ละแห่งในวันนี้มีประชาชนมาฟังการปราศรัยที่ละประมาณ 2,000 ถึง 2,500 คน โดยเขตเลือกตั้งที่ 4 นี้นับเป็นอีกเขตเลือกตั้งหนึ่งที่มีการแข่งขันสูงมากโดยแต่ละพรรคการเมืองต่างหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องปักธงให้ได้ในเขตนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ที่ส่งนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ลงชิงชัยแล้ว พรรคภูมิใจไทยก็ส่งนายชูกัน กุลวงษา อดีต สส.ในเขตเลือกตั้งนี้เช่นกันลงชิงชัย โดยนายชูกัน เคยได้รับเลือกตั้ง สส.ในเขตนี้ในสมัยที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย แต่มาสอบตกแพ้ให้แก่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยในครั้งนั้นนายชูกัน ลงสมัคร ในนามพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายชวลิต ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และนายชวลิต สามารถ เอาชนะนายชูกัน ได้อย่างถล่มทะลาย และในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการวัดกระแสพรรคเพื่อไทยในเขตนี้ว่ายังมีความนิยมในพรรคมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากผู้สมัครคู่แข่งของนายณพจน์ศกร ต่างก็เคยเป็นอดีต สส.ของพรรคเพื่อไทยมาแล้วทั้งสิ้น และ คนที่เคยเป็นหัวคะแนนของพรรคเพื่อไทยที่อกหักไม่ได้รับการส่งลงสมัครในครั้งนี้อย่างนายชาญชัย คำจำปา อดีตนายก อบต.พระซอง ก็หันไปซบพรรคเสรีรวมไทยแล้วลงสมัครชิงชัยในครั้งนี้ด้วย ทำให้ฐานคะแนนเดิมของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในกำมือของนายชาญชัย จึงถูกแบ่งไปส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน นอกจากนั้นนายสมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม ที่เพิ่งอกหักจากการลงเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งล่าสุด ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้ด้วยเช่นกัน โดยนายสมชอบมี พื้นเพเป็นชาวอำเภอปลาปาก และมีฐานคะแนนหนุนให้เป็นนายกอบจ.ในเขตนี้ด้วยเช่นกัน จึงทำให้อุณภูมิทางการเมืองในเขตเลือกตั้งที่สี่แห่งนี้เดือดขึ้นมาทันที กลายเป็นศึกห้าเส้า ใช้ฐานคะแนนของตนเข้าชิงชัยกัน จึงเป็นสนามเลือกตั้งที่จะบ่งชี้ว่าชาวบ้านยังคงมีคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยอยู่หรือไม่ คำนิยามที่ว่าถ้าลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยแล้วเอาเสาไฟฟ้าลงสมัครก็ได้ ยังคงใช้ได้หรือไม่ต้องจับตามองในเขตเลือกตั้งนี้
