ฉะเชิงเทรา – ปรับแผนจราจร ช่วงเทศกาลสงกรานต์สายตะวันออกได้ผล หลังรถสะสมน้อยลงกว่าทุกปี ขณะ ผบช.ภ.2 รุดดูช่องทางระบายพิเศษที่แยกบางพระแปดริ้ว ประตูสู่อีสานด้านทิศตะวันออกจาก กทม. หลังเพิ่มอุปกรณ์สิ่งอำนวยการ ในการบริหารจัดการเส้นทางเพิ่มเติม เพื่อปรับแผนการเดินรถของ ปชช.ได้อย่างทันท่วงที ขณะช่องตะโกสระแก้วใช้วิธีหอบรถเดินช่องทางเดียวครั้งละ 30 นาทีหากจราจรวิกฤต
วันที่ 12 เม.ย.66 เวลา 17.00 น. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมาตรวจสภาพการจราจรที่บริเวณทางสามแยกบางพระ ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกและมักจะมีปัญหาด้านการจราจรคับคั่งเป็นประจำในทุกเทศกาล ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการติดกล้องวงจรปิด ตรวจสภาพการจราจรที่เชื่อมสัญญาณเข้าไปสู่ยังศูนย์อำนวยการจัดการและแก้ไขปัญหาการจราจร ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ที่บริเวณแยกบางพระ
พร้อมกับการเพิ่มเครื่องกระจายเสียงประกาศแจ้งเตือน หรือแจ้งบอกสภาพการใช้เส้นทางให้แก่ประชาชนที่กำลังเดินทางผ่านทราบ รวมถึงการเพิ่มกำลังคนในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยมี อส.จร. อส.ทางหลวง เข้ามาเป็นกำลังสนับสนุน และยังมีการเตรียมแผนการปฏิบัติด้านการจราจรให้มีความสัมพันธ์กันในแต่ละจุด ทั้งในเส้นทางสายหลักและเส้นทางสายรองในการเลี่ยงรถติดในช่วงเทศกาล
โดยมี พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.นิพนธ์ คล้ายสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาต้อนรับและร่วมให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน ถึงวิธีการบริหารจัดการด้านการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่ง พล.ต.ท.อิทธิพล ได้กล่าวถึงการเตรียมพื้นผิวการจราจรเพื่อรองรับประชาชนในการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาว่า ทาง ภ.2 ได้ทำการขอคืนพื้นผิวจราจรจรที่กำลังมีการซ่อมสร้างในพื้นที่ภาคตะวันออกรวมทั้งหมด 70 จุด
โดยสามารถขอคืนพื้นที่เพื่อใช้อำนวยความสะดวกได้จำนวน 66 จุด ยังเหลืออีก 4 จุด คือ ที่บริเวณทางสามแยกบางพระแห่งนี้ โดยที่ทาง ภจ.ว.ฉะเชิงเทรา ได้พยายามในการประชาสัมพันธ์ไปสู่ประชาชนให้หันไปใช้เส้นทางเลี่ยง หรือทางสายรองเส้นต่างๆ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นและช่องทางสื่อออนไลน์ ทั้งยังมีการจัดเตรียมช่องทางพิเศษหากมีรถสะสมในเส้นทางเข้าขั้นวิกฤตหรือเป็นสีแดง จะสามารถเปิดให้รถเลี้ยวขวาที่ช่องทางพิเศษที่บริเวณทางสามแยกบางพระได้ในทันที ซึ่งพบว่าในปีนี้มีรถสะสมในเส้นทางน้อยกว่าทุกปี
ขณะเดียวกันยังได้มีการจัดตั้งด่านชุมชนจากถนนสายรอง ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ ภ.2 ดำเนินการนำร่องเพื่อลดอุบัติเหตุ จากรถที่ออกไปสู่ถนนสายหลักจากถนนสายรองในทุกชุมชนตำบลหมู่บ้าน เนื่องจากพบว่าสถิติอุบัติเหตุนั้น มีความเสี่ยงจากการที่ผู้ขับขี่ดื่มสุราแล้วขับรถออกไปยังถนนสายหลักหรือไม่สวมหมวกนิรภัย จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังจะได้เข้าไปทำความเข้าใจต่อผู้นำชุมชนหมู่บ้าน เพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากภาคชุมชนด้วย
ส่วนจุดที่เกิดการจราจรคับคั่งบ่อยครั้งในทุกช่วงเทศกาลต่างๆ เช่นเดียวกัน ที่ด่านช่องตะโก จ.สระแก้ว นั้น ทาง พล.ต.ต.นันทวุฒิ ได้กล่าวถึงวิธีการบริหารจัดการบนเส้นทางสายดังกล่าว ด้วยวิธีการหอบรถไปเป็นชุดในแต่ละช่วงเวลา หากพบว่ามีการจราจรด้านใดด้านหนึ่งคับคั่ง ด้วยการมอนิเตอร์จากกล้อง CCTV เนื่องจากเส้นทางสายดังกล่าวนั้น เป็นเส้นทางคับแคบที่เป็นถนนขนาดเพียง 2 ช่องจราจร ที่รถขับสวนกัน
เชื่อมจาก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ไปยัง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ จึงได้มีการเตรียมแผนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ด้วยการปิดเส้นทางให้เดินรถในลักษณะวันเวย์ครั้งละประมาณ 20-30 นาที โดยหากพบว่าการจราจรด้านใดมีการจราจรหนาแน่นคับคั่ง เช่น ในช่วง 1-2 วันนี้ ที่การจราจรด้านฝั่งขาไปมุ่งหน้าสู่ จ.บุรีรัมย์ มีความหนาแน่นมากจะทำการปิดเส้นทางให้เดินรถแบบวันเวย์ โดยให้เฉพาะรถที่จะมุ่งหน้าด้านขาไปผ่านไปได้โดยสะดวกเป็นเวลา 30 นาทีก่อนที่จะเปิดเส้นทางให้รถด้านสวนทางกลับมาสามารถวิ่งผ่านมาได้ และในช่วงปลายเทศกาลจะทำการปิดการจราจรเช่นเดียวกันในเส้นทางขากลับเข้าสู่ กทม. พล.ต.ต.นันทวุฒิ กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบนถนนสาย 331 สัตหีบ-กบินทร์บุรี ช่วงตอน แปลงยาว มุ่งหน้าเขาหินซ้อน ยังมีรถสะสมมากในเส้นทาง ตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมารวมถึงถนนสาย 304 บริเวณสี่แยกพนมสารคาม ยังมีรถสะสมมากแต่สามารถเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่อง หลังจากทาง จนท.ตำรวจ ได้ทำการปิดทางแยก โดยให้รถที่มาจากทางตรงบนถนนสายหลักผ่านไปได้โดยสะดวก จึงทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง
