กรุงเทพฯ – อีอีซี อะคาเดมี่ เสนอทำโปรเจกต์ความร่วมมือ 4 ภาคส่วน รัฐ เอกชน นักวิชาการ และภาคประชาชน ทดลองนำนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีมาพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างเป็นรูปธรรม ในรูปแบบ Sandbox ดึง 2 ศูนย์วิจัยเครือ MQDC นำนวัตกรรมเข้าร่วม เตรียมโชว์เคสที่งาน Nova BUILD EXPO 2023
ดร.เกชา ธีระโกเมน ผู้อำนวยการ EEC Academy และประธานกรรมการบริหาร EEC Engineering Network กล่าวในเสวนาพิเศษ ‘Why the city needs ESI Thinking Power? ทําไมสังคมเมืองถึงต้องการพลังความคิด ด้านสิ่งแวดล้อมความยั่งยืน และนวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิต?’ ณ งานแถลงข่าวเปิดตัว Nova BUILD EXPO 2023 โดยเสนอให้เกิดความร่วมมือกันระหว่าง 4 ภาคส่วน จัดทำโครงการ Eco District Sandbox เพื่อเป็นสนามทดลองนำองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม มาพัฒนาขึ้นเป็นโครงการตัวอย่าง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง พร้อมให้นำไปประยุกต์ใช้ต่อไป
ซึ่ง ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตอบรับเป็นเจ้าภาพในการประสานทุกฝ่าย ให้มาหารือกันต่อไป เพื่อเริ่มลงมือทำแผน sandbox ให้เกิดขึ้นจริงทันที
โดยย่านที่จะเริ่มดำเนินการดังกล่าว ได้แก่ ย่านสุขุมวิทใต้ ซึ่งเป็นย่านที่ กทม.ร่วมมือกับทุกภาคส่วน กำหนดให้เป็นย่านนวัตกรรม (Innovation District) ตามนโยบายพัฒนาเมืองของ กทม. ด้วยความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย และ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ซึ่งมีโครงการที่ชูนวัตกรรมเป็นหลักในพื้นที่หลายโครงการ ได้เสนอ Sandbox แรกของความร่วมมือนี้ที่ ดิ เอ็มดิสทริค ซึ่งเป็นที่ตั้งห้างสรรพสินค้า Emquartier และ Emporium เนื่องจากทั้งสองย่าน ล้วนเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมเข้าร่วม Sandbox ทันที
โครงการ Sandbox นี้ จะเน้นแก้ไขปัญหาใหญ่ 6 เรื่อง ได้แก่ การใช้พลังงานอาคารสะอาด (Green Energy) การกำจัดฝุ่นขนาดเล็กหรือ PM 2.5 การคัดแยกขยะ การจัดการขยะ การควบคุมน้ำท่วม การบำบัดน้ำเสีย และการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน
ข่าวน่าสนใจ:
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
ซึ่งการชูประเด็นเหล่านี้ เพื่อวางแนวทางไปสู่การทะลายข้อจำกัดทางด้านกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ด้วย Green Regulations เพื่อให้สามารถนำนวัตกรรม มาปฏิบัติได้จริง และนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและการลดการปล่อยคาร์บอนได้
ด้าน รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา RISC by MQDC ระบุว่า โครงการ sandbox ดังกล่าว สามารถทำได้ทันที โดย RISC by MQDC เอง พร้อมที่จะสนับสนุนโดยการอนุเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวกับการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นตาม ปรัชญาของ MQDC อย่าง For All Well-Being
RISC by MQDC มีกลุ่มงานวิจัยที่พร้อมใช้ทันที ไม่ว่าจะเป็น 5 Research Hubs for Well-being ซึ่งประกอบไปด้วย ความหลากหลายทางชีวภาพ (Plants & Biodiversity) คุณภาพอากาศ (Air Quality) ศาสตร์แห่งความสุขเชิงวิทยาศาสตร์ (Happiness Science) วัสดุและการใช้ทรัพยากร (Materials & Resources) ศาสตร์ความพร้อมรับมือ (Resilience) รวมถึง งานวิจัยที่จำเป็นอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจาก MQDC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ RISC ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาตลอด 30 ปีที่ก่อตั้งมา จึงทำให้ศูนย์วิจัยต่าง ๆภายใต้ MQDC รวมทั้ง RISC มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมมากมายที่คิดค้นขึ้นมาใช้งานจริงในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทอยู่แล้ว
ส่วน ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร FutureTales Lab by MQDC เปิดเผยว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้น จากวิกฤติ ในวันนี้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจนถึงขั้นวิกฤติ เป็นสิ่งที่ทุกคน ต้องร่วมกันรับผิดชอบ เพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อ ๆ ไป
จากการศึกษาวิจัยโดย FutureTales Lab by MQDC เกี่ยวกับสภาวะเมืองใหญ่ และการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองในอนาคต พบว่าโอกาสที่เมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพมหานคร จะประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ ที่ส่งผลต่อ คุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างหนักหน่วงมีสูงมาก หากปัญหาสิ่งแวดล้อม การปล่อยมลพิษ การจัดผังเมือง การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขในขณะนี้
FutureTales Lab by MQDC ได้ร่วมมือในการพัฒนาโปรเจ็กต์ฮับ ข้อมูลสภาพแวดล้อมหรือ ‘Urban Hazard Studio’ กับ ESRI Thailand ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ มีเป้าหมายในการนำข้อมูลมา วิเคราะห์ ประเมิน และเผยแพร่ เพื่อให้ประชาชนและสังคมเกิดความตระหนักรู้และ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในอนาคตของประเทศต่อไป โดยเริ่มต้นจากทำการ ศึกษาภัยจากน้ำท่วมบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้น เป็นประโยชน์ทั้งต่อประชาชน สังคม และเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะยาว
งานเสวนาดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการแถลงข่าวการจัดงาน Nova BUILD EXPO 2023 ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมอาคาร การออกแบบ และผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ที่เกี่ยวกับอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ที่เน้นการชูไอเดียนวัตกรรมอาคารยุคใหม่ เพื่อตอบโจทย์แนวคิด ESI ที่มี 3 มิติสําคัญ ได้แก่ อาคารที่ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม (Ecosystem) อาคารที่ส่งเสรมิความยั่งยืนของโลกและชุมชน (Sustainability) และอาคารที่ห่วงใยคุณภาพชีวิตการ อยู่อาศัยและเพิ่มประสิทธิภาพของอาคารให้ดียิ่งขึ้น (Innovation for Well-being) โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายนนี้ ณ ฮอลล์ 103-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ตามแนวทางของ สํานักงานส่งเสริมการจัดประชุม และนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB หรือ สสปน.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: