สงขลา –สะเดา หนุ่มวัย 23 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะเดา กรณีถูกทหารยศพลโทร่วมเพศซาดิสม์จนได้รับบาดเจ็บ เลือดออกทางทวารหนัก ยันไม่ได้เป็นการขายบริการหรือเรียกร้องเงิน วันนี้แค่ทวงความยุติธรรม ด้านชุดพิสูจน์หลักฐานลุยตรวจภายในห้องที่เกิดเหตุ หาหลักฐานเพิ่มเติม
25 เมษายน 2566 กรณีนายนัท อายุ 23 ปี ชาวอ.สะเดา จ.สงขลา ถูกนายทหารยศพลโท ร่วมเพศซาดิสม์รุนแรงจนมีเลือดไหลออกมาจากทวารหนัก และมีร่องรอยถูกกัด กระชาก จนมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง โดยทนายอาร์มได้นำผู้เสียหายพาเข้าตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนทางแพทย์ผู้รักษาประเมินส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 เวลา 11.00 น. ซึ่งทางแพทย์ผู้รักษาได้อนุญาตให้ทางผู้เสียหาย กลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ ในช่วงบ่ายวันนี้
นายนัท บอกว่าเบื้องต้นหลังตนเดินทางถึงโรงพยาบาล แพทย์ผู้รักษาประเมินว่ามีอาการเลือดออกเยอะไม่หยุดจึงได้พาเข้าห้องผ่าตัดทันทีโดยให้เป็นเคสฉุกเฉินพร้อมวินิจฉัยบาดแผล เนื่องจากเลือดของตนได้ไหลออกมาเยอะอาจจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ซึ่งทางแพทย์ผู้รักษาแจ้งว่า มีบาดแผลด้านในรูทวารหนักประมาณ 1 ซม. และในเบื้องต้นทางแพทย์ผู้รักษาแจ้งว่า ให้รอประเมินการผ่าตัดทางหน้าท้อง เพื่อทำการเย็บบาดแผลภายในรูทวาร ทั้งนี้ให้กินยาฆ่าเชื้อก่อนเผื่ออาจจะทำให้บาดแผลยุบลง และบาดแผลสมานกันเองได้เนื่องจากบาดแผลมันเล็กทางแพทย์ยังเย็บไม่ได้และให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน แต่ ถึงตอนนี้เลือดคงยังไหลอยู่ ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้เพื่อซับเลือด
ส่วนที่ทางกองทัพบกออกหนังสือชี้แจง ตนมองว่ามันไม่ยุติธรรม ถ้าท่านมองว่ามันเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ท่านมาที่นี่ท่านมาราชการนะครับไม่ได้มาพักผ่อนฤดูร้อน คุณใช้งบส่วนไหนมาจ่ายค่าโรงแรม คุณใช้งบส่วนไหนในการเดินทาง ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้ว แต่ที่ออกมาแถลงมันเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ได้พูดถึงเรื่องยาเสพติด
ไม่มีการแถลงเกี่ยวกับทางยาเสพติดเลยทั้ง ๆ ที่คลิป วิดีโอชัดเจนว่าท่านจะฉีดให้ ตรงนี้ตนมองว่าทางกองทัพ ลืมข้อนี้ไปได้อย่างไร พฤติกรรมในการเสพยาทำไมถึงไม่พูด พูดถึงแต่เรื่องวินัย พูดถึงเป็นเรื่องส่วนตัว คุณข้ามประเด็นตรงนี้ไปได้ไง มันก็เป็นคำถาม ตนถือว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ร้ายแรงกับทางราชการ แต่คุณกลับมองข้าม จึงอยากให้สังคมตั้งคำถามว่าคุณข้ามประเด็นนี้ไปได้อย่างไร
ด้าน นายทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ทนายความผู้เสียหาย บอกว่าผู้เสียหายมาร้องเรียนกับตน หลังจากไปร่วมรักกับชายรักชายคนหนึ่ง แต่กลับพบชายคนนี้ใช้ความรุนแรง ใช้อุปกรณ์ในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้ชื่นชอบลักษณะนี้ และยังรู้ภายหลังว่า เป็นนายทหารยศ พลโท จึงเข้าพบและให้ตนช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริง และตรวจสอบพยานหลักฐาน ก็แนะนำให้ผู้เสียหายไปรักษาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากมีบาดแผลตามลำตัว และอวัยวะบางส่วนฉีกขาด ซึ่งหลังพบแพทย์ ปรากฎว่า แพทย์ให้เข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน
ส่วนสาเหตุที่เลือดยังออกทางรูทวารผู้เสียหาย ทราบว่ามีการนำอวัยวะเพศชายเทียมที่มีขนาดใหญ่มากใส่เข้าไปและอาจไม่มีสารหล่อลื่น จนทำให้รูทวารฉีกขาด ซึ่งจากคำบอกเล่าของผู้เสียหาย บอกว่า ช่วงแรก นายพล คนนี้ ติดต่อมาดูแลอย่างดี เหมือนคู่รักชายปกติ แต่ก่อนร่วมเพศก็มีการเสพไอซ์ ด้วยวิธีการฉีด ซึ่งเชื่อว่า เป็นตัวกระตุ้นให้ใช้ความรุนแรง ทำให้ผู้เสียหายบาดเจ็บ ทั้งนี้การแจ้งความ ก็ต้องรอให้ผู้เสียหาย รักษาอาการบาดเจ็บก่อน โดยอาจดำเนินคดีได้ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากผู้เสียหาย ไม่สมยอม แต่จะหนักเพียงใดต้องรอดูผลการวินิจฉัยจากแพทย์ และผลสืบสวนสอบสวนก่อน
ส่วนคำชี้แจงของกองทัพบก ตนเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นการร่วมเพศของนายทหารกับผู้เสียหาย แต่ในระหว่างเกิดเหตุ มียาเสพติดเกี่ยวข้อง กองทัพบกไม่ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ ผู้ถูกกล่าวหา เป็น นายทหาร ยศพลโท เป็นหัวหน้าหน่วย แต่กลับเสพสารเสพติด ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่กองทัพบกต้องชี้แจง
ต่อมาในเวลา 16.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรสะเดา ทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ได้พานายนัท ผู้เสียหาย พร้อมนำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายทหารยศพลโท รายนี้แล้ว โดยก่อนเข้าเจ้งความได้เดินทางมาที่ห้อง 618โรงแรมที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วย ศพฐ.9 ได้เข้าทำการเก็บพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด เพื่อประกอบคดีนี้ ซึ่งมีข้อมูลว่าได้พยานหลักฐานต่างๆเช่นผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน และวัตถุพยานอื่นๆอีกพอสมควร โดยที่ไม่มีการอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพภายห้องที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทนายอาร์ม สุวรรณรักษา มีความกังวลหรือไม่ที่คดีนี้มีนายทหารระดับนายพลเกี่ยวข้อง ซึ่งทางทนายอาร์มฯบอกว่า เป็นคดีที่ไม่ซับซ้อน มีหลักฐานพยานชัดเจน เพียงแต่ว่าคู่กรณีเป็นทหารระดับสูง ซึ่งวันนี้ได้คุยกับนายตำรวจหลายท่าน ทั้ง ผกก.สะเดา และท่านผู้การจังหวัดสงขลา เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรมในคดีนี้ ซึ่งผู้เสียหายยืนยันไห้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ซึ่งหากว่าจะมีการพูดคุยอะไรกันนี่ต้องแยกประเด็นที่มีการทำร้ายร่างกาย และประเด็นยาเสพติด ซึ่งประเด็นนี้ยอมความไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนคำถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสที่เป็นการขายบริการหรือไม่ นายนัท ยืนยันว่าส่วนนี้เราไม่ได้ขายบริการ และไม่ติดใจเรื่องเงินด้วย แค่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรม และวันที่เราเจอกันเป็นความสมัครใจไม่ใช่เรียกรับเงินอะไร ส่วนที่ถามว่ามีก่อนมีเพศสัมพันธ์กันแบบรุนแรง ได้พูดหรือห้ามอะไรมั๊ย นายนัทบอกว่าพูดแล้วว่าเราไม่โอเคในเรื่องแบบนี้ แต่เขาบอกว่าเข้ามาแล้ว มีอะไรกันแล้วก็ทำๆไปก่อนประมาณนี้
