กรุงเทพฯ – ศาลฎีกา ชี้ พฤติการณ์อุกอาจ ฆ่าผู้บริสุทธิ์ โหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม พิพากษายืน สั่งประหารชีวิต นายประสิทธิชัย เขาแก้ว อดีต ผอ.โรงเรียนใน จ.สิงห์บุรี คลั่งฆ่าชิงทองห้างดัง จ.ลพบุรี
วันที่ 26 เมษายน 2566 ศาลอาญารัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ.300/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6, บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด และผู้เสียหายอีก 10 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ เขาแก้ว อายุ 41 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน กรณี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 จำเลยก่อเหตุใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์ ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ
ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อ 27 สิงหาคม 2564 ว่า จำเลยมีความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (6) ประกอบมาตรา 60, 289 (6) ประกอบมาตรา 80, 289 (7), 339 วรรค 2 วรรค 4 และวรรคท้าย ประกอบมาตรา 340 ตรี, 371, 376, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490, พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน, ฐานมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง จำคุก 6 เดือน, ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุสมควร จำคุก 3 ปี,
ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพิ่มความสะดวกในการจะกระทำผิดให้ประหารชีวิต, ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต, ฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีและใช้อาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะ ให้ประหารชีวิต
ข่าวน่าสนใจ:
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลย สถานเดียว ปรับ 1,000 บาท ริบของกลาง อาวุธปืนและเครื่องกระสุน หมวกโม่งคลุมศีรษะสีดำ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เสื้อยืด โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้กระทำผิด
รวมทั้งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บรรดาโจทก์ร่วม ที่ 1 จำนวน 1.8 แสนบาท, ที่ 2 จำนวน 9.9 หมื่นบาท, ที่ 3 จำนวน 1.3 แสนบาท, ที่ 4 จำนวน 2.2 ล้านบาท, ที่ 5 จำนวน 7.5 แสนบาท ที่ 6, 7 และ 8 จำนวน 2.25 ล้านบาท, ที่ 9 และ 10 จำนวน 7.5 แสนบาท
ขณะที่ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ทั้งนี้ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการกระทำอย่างอุกอาจในห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่สาธารณะ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน รวม 4 คน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วย อันเป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยม อันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ จำเลยเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนควรมีจิตสำนึกที่ดี ให้สมกับมีอาชีพเป็นครู ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่างกลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ ที่จำเลยขอความปรานีจากศาลเพื่อลดโทษให้ จึงไม่มีเหตุสมควร ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน
หลังคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัว อดีต ผอ.กอล์ฟ ไปควบคุมไว้ เพื่อนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: