ชัยภูมิ – แห่นาคโหดมีให้ชมหนึ่งเดี่ยวในโลกกลับมาสุดคึกคักอีกครั้ง หลังเจอพิษโควิด-19 ระบาดหนัก ต้องงดจัดงานมานานเกือบ 3 ปี ปชช.-นทท.สุดอั้นได้กลับมาร่วมชมสืบสานประเพณีเก่าแก่มาแต่โบราณหนึ่งเดียวในโลก สุดคึกคักอีกปี!
( 2 พ.ค.66 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-2 พ.ค.2566 ปีนี้ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ (ผวจ.ชัยภูมิ) ได้ทำพิธีเปิดงานสืบสานประเพณีแห่นาคโหดมีให้ชมเพียงแห่งเดียวในโลก ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาว จ.ชัยภูมิ ที่ขึ้นชื่อแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังไปทั่วโลกมายาวนานแต่โบราณ ได้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังต้องงดจัดงานในช่วงภาวะโควิด-19 ระบาดมานานเกือบ 3 ปี
และในปีนี้ที่หมู่บ้านโนนเสลา ตำบลหนองตูม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนได้จัดขึ้นเป็นประจำอีกปี ในช่วงข้างขึ้นเดือน 6 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ซึ่งในปีนี้มีชายหนุ่มในหมู่บ้านดังกล่าวที่มีอายุครบบวช 20 ปี ร่วมบรรพชารวม 8 รูป
ที่บรรยากาศภายในงานปีนี้ เริ่มจากในช่วงเช้าจะเป็นการให้ผู้เป็นบิดามารดา หรือ พ่อ และ แม่ทำพิธีปลงผมนาคก่อนเตรียมตัวบวชให้ที่บ้านตัวเอง ก่อนที่จะถึงช่วงบ่ายนาคคนในหมู่บ้าน จะพากันมารวมกันที่ วัดตาแขกซึ่งเป็นวันประจำหมู่บ้าน เพื่อประกอบพิธีไหว้ศาลตาปู่ประจำหมู่บ้าน ประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญนาค ก่อนทำพิธีแห่นาคโหด ในปีนี้ที่มี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ชัยภูมิ ได้นำประชาชนในพื้นที่ทำพิธีเปิดงานสืบสานประเพณีแห่นาคโหด ซึ่งบรรยากาศปีนี้มีชาวบ้านนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัด และต่างจังหวัด รวมถึงชาวต่างชาติ พากันเดินทางไปรอชมขบวนแห่นาคโหด “ที่มีให้ชมเพียงแห่งเดียวในโลกปีนี้กันอย่างคึกคักกว่าทุกครั้งที่มีการจัดงานมาแต่โบราณ” จนคนแน่นบริเวณลานวัดตาแขก เลขที่ 333 บ้านโนนเสลา ต.หนอตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เริ่มด้วยการขบวนนางรำในชุดแห่นาคโหดของหญิงสาวบ้านโนนเสลา กว่า 100 คน
ที่มีสีสันความสนุกสนาน ของการแห่นาคโหดของชาวบ้านโนนเสลา จะไปอยู่ที่เมื่อบรรดาญาติ เพื่อนฝูงของนาคแต่ละคน จะนำนาคขึ้นนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ที่มีคานหามและนาคจะถูกเซิ้ง หรือ ถูกโยนโยกรุนแรงเพื่อจะให้นาคที่จะบวชให้ตกคานหามไม้ไผ่ให้ได้ ซึ่งหากใครที่พลาดตกคานหามไม้ไผ่ลงมาก็ถือว่าจะไม่ได้บวช หรือ ไม่สามารถผ่านพิธี ที่โบราณถือว่าเป็นการแสดงความอดทน และฟันฝ่าอุปศักดิ์ต่างๆที่จะต้องผ่านไปบวชแทนคุณผู้เป็นบิดามารดาของชาวบ้านที่นี่ให้ได้ และไม่โหดแบบนี้จะไม่บวช ที่นาคทุกคนจะต้องถูกโยกโยนไปตลอดทางแห่ไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ก่อนที่จะก่อนโบสถ์เข้าบวชได้
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน มีทั้งโยก-โยน-ยก-เหวี่ยงคานหามไม้ไผ่ ไปตามจังหวะดันตรีอันเร่าร้อน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้ รวมทั้งเครื่องดนตรีอีสานของรถแห่ โดยคนแห่นาคส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนกัน จึงมีทั้งโยก โยนนาคอย่างเต็มที่ ด้วยความสนุกสนานปนเหนื่อยล่า เล่นเอาสะบักสะบอมไปตามๆ กัน แต่ก็เป็นไปอย่างสนุกสนานเป็นที่ประทับใจกันทั้งคนหามและคนแห่ ซึ่งเป็นบทหนึ่งในการทดสอบความอดทดของนาคหนุ่ม ซึ่งผู้ที่เคยได้ยินการเล่าขานถึงประเพณีการแห่นาคโหดจากที่ต่าง ๆ ต่างเดินทางมาชมว่าโหดสมชื่อแห่นาคโหดที่มีที่ จ.ชัยภูมิ มีให้ชมเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย หรือ ในโลกก็ว่าได้ และร่วมแห่ในขบวนกันจำนวนมากนับหลายพันคนเป็นประจำทุกปีที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากแห่รอบหมู่บ้านแล้ว จะวกกลับมาในวัดเพื่อให้นาคนั่งสมาธิรอการบรรพชาในช่วงก่อนใกล้สว่างในวันรุ่งขึ้นต่อไป และมีชาวบ้านรวมถึงนักท่องเที่ยว มาชมการแห่นาคโหดอย่างเนื่องแน่นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ของการจัดสืบสานประเพณีแห่นาคโหดในปีนี้ได้กลับมาคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมาได้อีกด้วย
ที่สำหรับ ประเพณีแห่นาคโหดของชาวบ้านโนนเสลา ตำบลหนองตูม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้สืบทอดกันมาเป็นเวลานานแต่โบราณ ซึ่งเป็นตำนานของประเพณีการแห่นาคโหด เป็นการทดสอบความอดทดของลูกผู้ชาย ต้องมีความอดทน มีสติ ไม่ย่อท้อต่อปัญหา และ ความตั้งใจที่จะฝ่าด่านคานหามแห่นาคโหดเข้าไปให้ถึงวัด เพื่อเข้าพิธีบวช หรือ อุปสมบท เพื่อทดแทนคุณบิดามารดาของตนเองให้ได้ ซึ่งการหามแห่นาครอบหมู่บ้าน ก็มีระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ที่นาคทุกคนจะต้องถูกหามบนคานหามแคร่ไม้ไผ่ ญาติๆและเพื่อนฝูง จะโยก-โยน-ยก-เหวี่ยงคานหาม ให้นาคฝึกความแข็งแรง ความอดกลั้น ความอดทนของสุขภาพร่างกายจิตใจต่อสู้กับความทุกข์ทรมานอุปกรณ์ต่างๆให้ได้ที่จะได้รู้คุณพ่อแม่ที่กว่าจะคลอดลูกออกมาได้เจ็บปวดเพียงใด ที่เกิดจากการถูกแกล้ง ของบรรดาลูกหาบ ให้นาคได้ระลึกถึงพระคุณของบิดา-มารดา ที่ได้เลี้ยงดูจนเติบโต และตระหนักเห็นถึงความยาก ความลำบาก ของผู้เป็นมารดา ที่ได้ตั้งท้องทะนุถนอม มานานถึง 9 เดือน จนครบกำหนดและคลอดแล้ว ต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆ ได้ที่จะต้องประสบกับความทุกข์ทรมานนานนับประการ ทั้งการเข้ากระโจมกินนอนบนแคร่ไม้ไผ่ ที่มีการก่อไฟด้วยฟืนลุกไหม้ให้ความร้อนตลอดเวลา ให้มีน้ำนมสำหรับเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ นาคที่ได้ผ่านการแห่นาคโหดและได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์สำเร็จ จึงเป็นความภาคภูมิใจของทุกๆคน ที่ได้มาร่วมงานบุญอันยิ่งใหญ่นี้ จนได้รับการเรียกขานจากบุคคลทั่วไปจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อโงดังไปทั่วโลกว่ามีหนึ่งเดียวในโลก ว่า “การแห่บวชนาคโหด” ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย หรือ ในโลก ที่ชาวบ้านโนนเสลาได้ร่วมใจกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นประเพณีอันดีงามคงอยู่คู่ประเทศไทยสืบไปมายาวนานแต่โบราณจนปัจจุบัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: