นราธิวาส-“ทวี สอดส่อง” ลุย! เดินหน้าพบปะชาวบ้านกลุ่มย่อย ขอเสียงสนับสนุน”อัฟฟาน หะยียูโซะ” คนรุ่นใหม่ เบอร์ 4 เลือกคนเลือกพรรคประชาชาติ เปลี่ยนอนาคตที่ดีขึ้น
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ อดีตรองอธิบดีอัยการ และนายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายอัฟฟาน หะยียูโซะ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1 เบอร์ 4 พรรคประชาชาติ ที่บริเวณมัสยิดยะกัง ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวระหว่างพบปะพี่น้องประชาชนตอนหนึ่งว่า พรรคประชาชาติไม่ใช่พรรคการเมืองของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นพรรคของพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การสร้างคนนั้นต้องสร้างด้วยการศึกษา ต้องยอมรับว่า การศึกษาที่เกี่ยวกับศาสนามีความสำคัญ โดยเฉพาะมนุษย์เรา เป็นสิ่งที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ ในสังคมที่เจริญที่พัฒนา เราจะให้ความสำคัญการศึกษา ผมคิดว่าเป็นทางออกในอนาคตข้างหน้าที่สำคัญ เราจะทำอย่างไร จะพัฒนาคนให้มีความรู้และมีคุณธรรมด้วย การมีคุณธรรมก็คือการศึกษา พรรคประชาชาติเป็นพรรคของการศึกษาอย่างแท้จริง จะสร้างคน สร้างชุมชน แล้วให้คนไปสร้างชาติ ซึ่งพรรคประชาชาติสร้างคนเพื่อให้คนไปสร้างชาติ ถ้าจะทำให้ประเทศเจริญขึ้น เราต้องพัฒนาเรื่องการศึกษา และวัดคนที่คุณภาพ คือวัดคนด้วยความรู้และมีจริยธรรม ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนอนาคตที่ดี
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังกล่าวต่ออีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้เราต้องการแก้ปัญหาของประชาชน แม้ว่าปัญหานั้นส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนในภาคใต้ก็ตาม แต่มันเป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ แล้วเราก็คิดว่าปัญหาต่างๆได้เกาะกินกัดกร่อนสังคมไทยมานาน คือปัญหาเรื่องการบริหารและการปกครองที่รัฐบาลให้ความสำคัญประชาชนเพียงแค่คำพูด ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วยังปล่อยให้มีความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้สังคมไทยเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ และเกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยมากขึ้น และรายได้ของประชาชนอยู่ในภาวะขาดแคลน ในวิกฤตเช่นนี้พรรคประชาชาติจึงเสนอนโยบายที่จะพยายามทำให้ความยากจนหมดไปหรือเป็นศูนย์ ซึ่งจะพยายามทำให้ความเหลื่อมล้ำหมดไป ซึ่งความเหลื่อมล้ำนั้นมีทั้งความเหลื่อมล้ำเชิงสิทธิเสรีภาพ อำนาจและรายได้ และความเหลื่อมล้ำที่สำคัญคือความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนคือในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พยายามใช้ความคิดทางอำนาจนิยมกับประชาชนจนเกินไป และพอมาถึงจุดนี้ก็ดีใจที่เห็นพรรคที่เป็นฝ่ายรัฐบาลลอกเอานโยบายของพรรค ของฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเช่นพรรคประชาชาติ อย่างเช่นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ นโยบายการเอาทหารกลับบ้าน และพรรคฝ่ายรัฐบาลเห็นด้วยกับการทำให้ประเทศเป็นรัฐสวัสดิการ 3,000 บาท บำนาญทั่วหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเพราะบริหารประเทศมาแล้วทำให้ประชาชนยากจน แล้วประชาชนเองก็มีความรู้สึกว่าจะต้องเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งการจะเปลี่ยนรัฐบาลนั้นประชาชนก็จะมาดูถึงนโยบาย และในส่วนของบริบทของภาคใต้นั้น พรรคประชาชาติ เราขอเริ่มจากฐานที่มั่นคงก่อน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้เราก็เชื่อมั่นว่า ส.ส.ที่เราส่งไปนั้นโดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราค่อนข้างมีความมั่นใจเกิน 50% จากการได้พบปะกับพี่น้องประชาชน เราจะได้ทั้ง 13 เขตการเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 9 วันที่จะทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าเลือกพรรคประชาชาติไม่ใช่เลือกแค่เป็นพรรคประชาชาติ แต่เลือกเพื่อจะเปลี่ยน อนาคตที่ดีขึ้นเพื่อประชาชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: