พรรคภูมิใจไทย ส่งทนายฟ้องอาญาชูวิทย์ 2 ข้อหา อ้างนัดพิธาขึ้นเวทีหาเสียงก้าวไกลในตลาดนกฮูกมีการแจกเสื้อในงาน
วันที่ 11 พ.ค เวลา 13.50 น. น.ส.ประภารัตน์ พิริยะอนันตะกุล และ นายปราชญา รุ่งทรัพย์ 2 ทนายความซึ่งได้รับมอบอำอำนาจจากพรรคภูมิใจไทย เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นฟ้องตรงต่อศาลจังหวัดนนทบุรี หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางที่ตลาดนกฮูกในวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่พรรคก้าวไกลมีการจัดเวทีปนาศรัยใหญ่ โดยนายชูวิทย์ได้นัดพบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก่อนที่นายชูวิทย์จะใช้คำพูดใส่ร้ายใส่ความ และมีพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายในการซื้อเสียงเพื่อไม่ให้เลือกพรรคและผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
โดย น.ส.ประภารัตน์ พิริยะอนันตะกุล ทนายความผู้รับมอบอำนาจ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้รับมอบหมายจากผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย ให้มาดำเนินฟ้องนายชูวิย์ กมลวิสิษฐ์ ในคดีอาญาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นายชูวิทย์เดินทางไปที่ตลาดนกฮูกแล้วขึ้นเวทีกับพรรคก้าวไกล โดยมีผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลและนายพิธารวมอยู่ด้วย ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนส่งฟ้องยังให้รายละเอียดไม่ได้ ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องและนัดไตร่สวนคดีนี้ในวันที่ 10 ก.ค.66 โดยเป็นการยื่นฟ้องนายชูวิทย์เพียงคนเดียว
น.ส.ประภารัตน์ พิริยะอนันตะกุล กล่าวอีกว่า นายชูวิทย์มีพฤติกรรมในการจูงใจโดยให้สิ่งของซึ่งเป็นเสื้อแจกในงาน โดยทางพรรคมีพยานหลักฐานชัดเจนในการนำมายื่นฟ้องให้ศาลพิจารณาด้วย ในลักษณะเป็นการจัดให้ เสนอให้ซึ่งสิ่งของที่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ หลังจากที่ฟ้องศาลนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับทาง กกต.ต่อ ซึ่งจะเป็นการร้องเรียนนายชูวิทย์ นายพิธา และพรรคก้าวไกลด้วย ในเรื่องที่นายพิธายินยอมให้นายชูวิทย์ ขึ้นเวทีโดยที่ไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียงในการปราศรัยที่ตลาดนกฮูก ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ไปขึ้นเวทีของพรรคการเมืองอื่นๆ นั้น ทางพรรคก็จะมีการฟ้องดำเนินคดีเป็นกรณีๆไป โดยมีการจัดทีมทนายเตรียมไว้ดำเนินการแล้ว ทางพรรคพร้อมที่จะฟ้องทุกกรณีที่นายชูวิทย์ เดินทางไปร่วมเวทีกับพรรคการเมืองอื่นๆ แล้วมีการพูดจาใส่ร้ายทางพรรคภูมิใจไทย ทำให้ทางพรรคภูมิใจไทยใช้สิทธิในการฟ้องร้องตามกฏหมาย ไม่ใช่เฉพาะในช่วงที่ใกล้การเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งในกรณีที่ทางพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นร้องเรียนนายชูวิทย์กับพรรคก้าวไกลไปแล้ว ก็จะต้องรอให้ทาง กกต.วินิจฉัย ว่าการกระทำของนายชูวิทย์ นายพิธาและพรรคก้าวไกลเข้าข่ายผิดในส่วนใดตาม พรบ.การเลือกตั้ง
