X

บุรีรัมย์ จัดอบรมเยาวชน โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ด้วยแนวคิด “ทำดี..ทำง่าย..ให้เลือด”

ศูนย์รับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ร่วมกับภาคเอกชน สนับสนุนเยาวนจังหวัดบุรีรัมย์ มีคุณธรรมและรู้จักการเป็น “ผู้ให้” มีจิตอาสา ช่วยชีวิตผู้เจ็บป่วย ส่วนสถานการณ์โลหิตพบว่าในเขตนครชัยบุรินทร์ยังขาดแคลน

วันนี้( 6 มิ.ย.66) เวลา 09.00 น. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดโครงการอบรมเยาวชน โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ปีการศึกษา 2566 ปีที่ 23 ด้วยแนวคิด “ทำดี..ทำง่าย..ให้เลือด” ที่ห้องประชุมปริ้นแกรนด์ โรงแรมเดอะศิตาปริ้นเซส อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์

จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชน นักเรียน ที่มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ เริ่มต้นการเป็น ผู้ให้ และเป็นผู้นำการบริจาคโลหิต มุ่งมั่นในการทำดี มีจิตอาสา มีความรู้ในการช่วยเหลือผู้อื่นผู้อื่นด้วยการบริจาคโลหิต การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน การปฐมพยาบาลสามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างมีคุณภาพด้วยความชำนาญ ให้เยาวชนที่ผ่านการอบรมมีบาทบาทเป็นผู้นำในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่กิจกรรมการรับบริจาคโลหิตในโรงเรียนและชุมชน มีเยาวชนในโรงเรียน ครู เข้าร่วม 150 คน

กิจกรรมประกอบด้วย การแบ่งกลุ่มให้ความรู้ สถานีความรู้โลหิต ผลิตภัณฑ์โลหิตและส่วนประกอบของโลหิต ประโยชน์ของการบริจาคโลหิตทั้งผู้ให้และผู้รับ การเป็นนักประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้บริจาคโลหิต การฝึกปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือ CPR และการใช้เครื่องช๊อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED เพื่อให้สามารถช่วยชีวิตผู้หมดสติ ไม่หายใจ หัวใจหยุดเต้น ได้ทันเวลา
นางสาวศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์โลหิตในเขตนครชัยบุรินทร์ มีโลหิตจ่ายให้กับผู้ป่วยได้ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็น

ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้รักษา ผู้ป่วยที่รอการรักษาหรือมีความต้องการใช้โลหิต ไม่ใช่เพียงว่าต้องผ่าตัดช้า ได้รับการรักษาช้าเท่านั้น อาจถึงแก่ชีวิต หรือได้รับการรักษาแล้วแต่คุณภาพชีวิตไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีโลหิตเพียงพอ ดังนั้นเครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ และสถานศึกษา จึงจัดโครงการขึ้นเพื่อมุ่งหวังว่า โลหิตที่ยังขาดอีก 50 เปอร์เซ็น นั้นจะได้พลังจากเยาวชนให้ไปร่วมบริจาคโลหิต เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อค่อนข้างต่ำ สามารถบริจาคเลือดได้อายุตั้งแต่ 17 ปี จนถึง 70 ปี

ดังนี้จึงจำเป็นต้องส่งเสริมทัศนคติที่ดี ดูแลสุขภาพที่ดี มีความรู้ทุกมิติของการบริจาคโลหิตเยาวชนเหล่านี้จะเป็นผู้บริจาคโลหิตที่มีคุณภาพ และจะเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่มีคุณภาพช่วยในการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจในการบริจาคโลหิตในโรงเรียน ในหมู่บ้านชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน