นราธิวาส-“ทวี สอดส่อง” สยบร้อน “ประชามติแยกดินแดน” เปิดเวทีรับฟังความเห็นองค์กรพุทธชายแดนใต้ที่นราฯ เป็นพรรคแรกหลังเลือกตั้งพี่น้องพุทธดีใจ หนุนประชาชาตินั่งเก้าอี้ รมว.ดับไฟใต้
วานนี้ ( 17 มิ.ย.66 ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ( ปาร์ตี้ลิสต์ ) และเลขาธิการพรรคประชาชาติ เดินทางลงพื้นที่ จ. นราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.ท.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน, นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ ไปร่วมรับประทานอาหารเที่ยง ที่วัดพรหมนิวาส ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส ก่อนจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้กับ “ผู้แทนองค์กรพุทธ” ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอ จ.สงขลา คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี
โดยบรรยากาศการพูดคุยในครั้งนี้ ผู้แทนองค์กรพุทธได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองแรกที่ได้เดินทางลงมาพบองค์กรพุทธชายแดนใต้ ซึ่งหลังสนทนากันรู้สึกว่าทางพรรคมีความเข้าใจปัญหา และอยากร่วมทำงานกับพรรคประชาชาติ
นอกจากนี้ ผู้แทนองค์กรพุทธชายแดนใต้ ยังได้เสนอให้พรรคประชาชาติตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อที่จะพัฒนาความมั่นคงของพี่น้องชาวไทยพุทธในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งให้เสนอรัฐบาลชุดใหม่ตรวจสอบรายชื่อกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ หรือกลุ่มก่อความไม่สงบที่หลบหนีตามบัญชีรายชื่อของหน่วยความมั่นคงที่มีอยู่ ให้ตรงกับปัจจุบัน เพราะน้ำตา ไม่ว่าของพุทธหรือมุสลิม เวลาร้องไห้ก็เหมือนกันหมด พบความลำบากเหมือนกัน
ทั้งนี้ ผู้แทนองค์กรพุทธชายแดนใต้ ยังกล่าวถึงกิจกรรมการทำ “ประชามติจำลอง” สอบถามความเห็นเรื่องการทำประชามติเอกราชปาตานีให้ถูกกฎหมายด้วย โดยบอกว่า รู้สึกตกใจที่มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ แต่ก็ยังตั้งความหวังกับพรรคประชาชาติที่จะมาแก้ปัญหาในภาคใต้ให้กับทุกคนได้ โดยขอให้พรรคประชาชาติได้ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีกระทรวงที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวในวงพูดคุยว่า ทุกพรรคจะส่งคนลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนจริงๆ ซึ่งคณะทำงานชุดใหญ่ จะมีการประชุมอีก 1-2 ครั้ง แล้วจะลงมาในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา
“พรรคประชาชาติ ถ้าไม่แก้ปัญหาภาคใต้ แล้วไปแก้ปัญหาที่อื่น ก็ไม่ต้องมีพรรคประชาชาติ เราเชื่อว่าเราจะตั้งรัฐบาลได้ และผลักดันนโยบายที่รับปากกับประชาชน ไม่ว่าทางด้านเศรษฐ์กิจ การศึกษา สร้างความเจริญให้พื้นที่ต่างๆ ไม่ได้สร้างเฉพาะคนภาคใต้ ต้องสร้างให้คนทั้งประเทศ ในแง่ของศาสนา ต้องเรียนว่าคนพุทธต้องอยู่ได้ พระต้องอยู่ได้ วัดต้องอยู่ได้ ต้องอยู่ได้อย่างได้รับเกียรติ เช่นเดียวกับคนมุสลิมที่เป็นคนส่วนใหญ่ในสามจังหวัด แต่คนมุสลิมจะต้องอยู่ในประเทศไทยได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน” เลขาธิการพรรคประชาชาติแจง
ทางด้าน พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม กล่าวว่า เรื่องภาคใต้ ไม่มีเรื่องไหนสำคัญกว่าปัญหาความไม่สงบ และเชื่อว่าพรรคประชาชาติรู้ปัญหาดี สมมุติว่าพรรคประชาชาติได้เป็นรัฐบาล สมมุติว่าท่านทวีได้เป็นรัฐมนตรี อยากให้เป็นรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ในการแก้ปัญหาภาคใต้โดยตรง
“คนที่อยู่ในพื้นที่และเข้าใจปัญหาดี จะรู้ว่าจะต้องแก้อย่างไร เพราะถ้าท่านไปเป็นรัฐมนตรีเกษตร ใครก็เป็นได้ในประเทศนี้ และบางทีคนที่จะมาแก้ปัญหาในระดับนโยบายเรื่องภาคใต้ เกือบ 20 ปีมีคนบาดเจ็บ มีความเจ็บปวด ทุกคนอยากให้ปัญหานี้มันยุติไปในทางที่ควรจะเป็น อยากให้ ส.ส.ทุกคนที่เข้าไปในสภาฯ อย่าไปคิดว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่มาร่วมคิดแก้ปัญหา เพราะปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาระดับชาติ ไม่ใช่ปัญหาของพุทธ มุสลิม ไม่ใช่ปัญหาของใครเลย แต่มันเป็นปัญหาของพวกเราทั้งประเทศ และกระบวนการแก้ปัญหาโดยวิธีการแสวงหาทางออกทางการเมือง เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ขอให้กำลังใจ อยากให้มีรัฐบาลแก้ปัญหานี้ได้จริง” เจ้าอาวาสวัดยะหริ่ง กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาพรรคประชาชาติถูกจับโยงกับกิจกรรม “ประชามติเอกราชปาตานี” เพราะมีบุคคลระดับรองหัวหน้าพรรคไปร่วมงานสัมมนาที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ด้วย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาทางพรรคก็ยืนยันว่าไม่ได้สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน แต่ก็ยังมีความพยายามจากบางฝ่ายไปยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบพฤติกรรมของพรรค
ทั้งนี้การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พ.ต.อ.ทวี และคณะ โดยได้พบกับผู้แทนองค์กรพุทธชายแดนใต้ ทำให้ภาพลักษณ์และแรงกดดันที่มีต่อพรรคลดน้อยลง เพราะนับเป็นพรรคการเมืองแรกที่เปิดเวทีรับฟังปัญหาจากพี่น้องชาวพุทธในพื้นที่ ตั้งแต่หลังเลือกตั้งเป็นต้นมา และทางพรรค โดยเฉพาะ พ.ต.อ.ทวี ก็ร่วมกิจกรรมกับพี่น้องไทยพุทธอย่างต่อเนื่องไม่เคยขาดเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: