พรรคภูมิใจไทย ประกาศจะแก้กฎหมายเรียกรถผ่านแอปให้ถูกกฎหมาย พร้อมเปลี่ยนระบบการทำงานและเรียนที่บ้านสัปดาห์ละ 1 วัน ลดปัญหารถติด ปักหมุดการเลือกตั้งพื้นที่ กทม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า เราต้องเปลี่ยนให้กรุงเทพฯ เป็น “กรุงเทพฯสะดวกสบาย” ผ่าน 2 แนวคิด คือ กรุงเทพฯสะดวก และ กรุงเทพฯสบาย เช่น Co-Working Space ทำงานที่ไหนก็ได้ ใช้เครือข่ายทำงานออนไลน์ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานราคาแพง, การศึกษา ก็ต้องปรับเป็นดิจิทัล ที่ไม่ต้องเดินทาง อาจเป็นการเรียนอยู่บ้าน 1 วัน ส่วนอีก 4 วันไปโรงเรียน เช่นเดียวกับการทำงาน ก็ใช้นโยบายเดียวกัน คือการทำงานที่บ้าน 1 วัน ทำงานที่ออฟฟิศเพียง 4 วัน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยใช้ภาษีจูงใจให้เอกชนเข้ามาร่วมโครงการ สิ่งเหล่านี้พรรคภูมิใจไทยมั่นใจเพราะมีทีมงานที่มีคุณภาพคอยทำงานอยู่
“ในกรุงเทพฯผมไม่ยอมแพ้ แม้จะเคยท้อถอยบ้าง แต่ด้วยข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ น่าจะได้ความเชื่อถือศรัทธาของคนกรุงเทพฯมากขึ้น”
ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การทำงานทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศแล้ว ซึ่งการที่ไม่ต้องเดินทางมาทำงานนั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นได้ เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของคนดีขึ้น แต่เราต้องปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี และการแก้กฎหมายให้เท่าทัน
กรุงเทพฯสะดวก กรุงเทพฯสบาย
แนวคิดที่ 1 “เรียกรถผ่าน แอปพลิเคชัน ถูกกฎหมายทุกคัน” สร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทาง ใชัเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาเพิ่มทางเลือกการคมนาคม ต้องได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย แก้ปัญหารถติด
แนวคิดที่ 2 “Home Office อยู่บ้านก็ทำงานได้” เป็นการลดค่าใช้จ่ายและปัญหาการจราจร โดยให้ทำงานที่บ้านสัปดาห์ละ 1 วัน มาทำงานออฟฟิศ 4 วัน ซึ่งจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับภาคเอกชน ส่วนประชาชน จะให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 15,000 บาทต่อปีแก่ผู้ที่ทำงานอยู่บ้าน
แนวคิดที่ 3 Digital Home School อยู่บ้านก็เรียนได้ ลดปัญหาการเดินทางด้วยการเรียนออนไลน์
แนวคิดที่ 4 Co-Working Space 1 แขวง 1 ออฟฟิศ สร้างพื้นที่ส่วนกลางให้ประชาชนได้ใช้งาน บนพื้นที่ของรัฐและเอกชน ลดการใช้พื้นที่สำนักงาน ประหยัดเวลาเดินทาง
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ เน้นย้ำว่า เมื่อทุกแนวคิดถูกมาทำจริง ร่วมกันทุกภาคส่วน การแก้ไขปัญหารถติดของคนกรุงเทพฯก็จะเป็นไปได้แล้ว
ซึ่งล่าสุดพรรคภูมิใจไทยได้ประกาศที่จะปักหลักการลงเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯให้ได้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของคนกรุง แม้การแก้ไขปัญหากรุงเทพฯเป็นเรื่องยากมาก ต่างกับในต่างจังหวัด ที่เราเข้าไปแก้ไขปัญหาปากท้อง สาธารณสุขคนในพื้นที่ก็พอใจแล้ว แต่ในกรุงเทพฯต่างกัน เพราะเราต้องคำนึงถึงสุขภาพจิต การจราจร อะไรที่เป็นปัญหาเยอะแยะไปหมด จนเคยถอดใจไปบ้าง แต่ไม่ท้อถอย จนไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราต้องรีแบรนด์ใหม่ให้เข้ากับคนกรุงเทพฯ
ด้านนายจุลภาส เครือโสภณ คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย บอกว่า ปัญหาของกรุงเทพฯ หลักๆ คือการจราจร เพราะเป็นมหานครขนาดใหญ่(Mega City) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนทำงานราว 5,341,900 คน กับวัยเรียน 1,980,000 คน แต่มียานพาหนะมากถึง 9.9 ล้านคัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอีกมาก
ปัญหาสังคม
- ปัญหาการใช้เวลาเดินทางนาน ความเสี่ยงสูง
- ปัญหาสุขภาพจิตและวุฒิภาวะทางอารมณ์
- ปัญหาด้านมลพิษ
ปัญหาเศรษฐกิจ
- ปัญหาค่าครองชีพ
- ปัญหาค่าใช้จ่ายพลังงาน
- ปัญหาค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
“การแก้ปัญหารถติดให้คนกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทยจะทำให้ได้ ซึ่งวันนี้เทคโนโลยีตามไอเดียทันแล้ว เราจะต้องทำให้คนกรุงเทพฯมีคุณภาพชีวิตที่ดี”
โดยเป้าหมายของภูมิใจไทย คือการลดค่าใช้จ่ายการเดินทางไปสำนักงาน 25%, ลดปัญหาการจราจร 25%, ลดการใช้พลังงาน 25% และลดมลพิษ 25%
ฉะนั้นนโยบายทุกอย่างเราจะเน้นไปที่คนกลุ่มนี้ ซึ่งปัญหาต่างๆสามารถแก้ได้แล้วด้วยเทคโนโลยี ซึ่งกลุ่ม 18-25 จะชื่นชอบนโยบายแบบนี้ เราจะเจาะกลุ่มคนเหล่านี้
