ชัยภูมิ –วันเดียวหญิงถูกลวนลามร่วม 4 ราย ไม่เว้นยายอายุ 85 ปี สู้ขัดขืนชาวบ้านมาช่วยทันถูกทำร้ายร่างกายเจ็บหนัก!
( 26 มิ.ย.66 ) มีกล้องวงจรปิดของเทศบาล ต.ผักบัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ บริเวณสี่แยกกุหลาบแดง ต.ผักปัง ได้จับภาพชายวัย 45 ปี มีชายสวมใส่เสื้อยืดสีเหลือง ได้เดินข้ามถนนก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในร้านค้า มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ในร้านกำลังจัดของในร้านอยู่ ชายวัย 45 คน ได้เดินอ้อมมาทางด้านหลังแล้วจะเข้าไปก่อนหญิงสาว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.10 น.วันวานนี้ที่ผ่านมา ก่อนที่หญิงสาวจะดิ้นหลุด ชายวัย 45 ปี ยังได้เดินหนีออกจากร้านไป ในเวลาต่อมา และได้เข้าก่อเหตุพยายามลวนลาม ทำอนาจารหญิงสาวอีก 3 คน รวมถึงหญิงชราวัย 85 ปี ยังได้ถูกชายวัย 45 ปี รายบุกเข้าไปภายในบ้าน เข้ามาปลุกปล้ำ ถอดผ้าถุงยายออก ก่อนที่จะถอดกางเกงของตัวเองออกหวังจะข่มขืนหญิงชราวัย 85 ปี แต่หญิงชราได้ขัดขืน และร้องขอความช่วยเหลือ จนยาย 85 ปี รายนี้ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ได้เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน
ก่อนชายวัย 45 ปี ผู้ก่อเหตุได้ยินเสียงชาวบ้านจึงวิ่งรีบใส่กางวิ่งหนีไป หญิงชราวัย 85 ปี ได้รับบาดเจ็บหนัก ชาวบ้านช่วยกันรีบนำตัวส่งรักษาตัว รพ.ภูเขียว หลังเกิดเหตุญาติหญิงชราวัย 85 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูเขียว แล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา ซึ่งทราบว่าผู้ก่อเหตุป่วยจิตเวช จึงทำได้เพียงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.ภูเขียว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำเอาชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิง และหญิงสูงวัย ต่างหวาดระแวงเป็นอันมาก อยากให้นำตัวไปรักษาอาการป่วยทางจิตเวชให้หายขาดก่อน และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคักกว่าทุกปีสุดยอดงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก!
- ชัยภูมิปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบช่วงคริสต์มาส-เทศกาลต้อนรับปีใหม่!
- หนุ่มเซลล์โชว์รูมรถสะกดรอยแก๊งลักรถจักรยานยนต์ด้วย GPS ก่อนแจ้งตำรวจบุกทลายรัง พบของกลางจำนวนมาก
- ตำรวจจับ 6 ราย ปิดล้อมตรวจค้นและระดมกวาดล้างเป้าหมายยาเสพติดในห้วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณสี่แยกกุหลาบแดง ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พบว่าคนก่อเหตุชื่อนาย… (ขอสงวนนาม) เป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ทางแม่ผู้ก่อเหตุแจ้งว่า เมื่อลูกได้ไปรักษาตัวหายกลับมาอยู่บ้าน ในพื้นที่ใกล้บ้านหลังเกิดเหตุวานนี้ ลูกได้หันไปเสพกัญชา และกินยาจิตเวชไม่ต่อเนื่อง ทำให้มักเกิดอาการหลอนช่วงวันพระเป็นประจำ แต่ก็ไม่ร้ายแรง จนถึงวันพระวานนี้( 25 มิ.ย.66) ซึ่งผู้เป็นแม่ผู้ก่อเหตุรายนี้ขอให้เพียงข้อมูลเท่านั้น แต่ไม่ให้สัมภาษณ์
ด้านสำหรับผู้เสียหายรายแรกที่ถูกชายวัย 45 ปี เข้าไปก่อเหตุกอดลวนลามวานนี้ คือ เป็นหญิง อายุ 19 ปี เล่าให้ฟังว่าเมื่อเวลา 11.10 น. ขณะที่ตนเองได้ยืนล้างสิ่งของอยู่บริเวณหน้าร้านขายหมูสด ซึ่งตนเองเป็นลูกจ้างของร้าน จู่ๆ ชาย อายุ 45 ปี ได้เดินอ้อมมาด้านหลัง เข้ามากอดทันทีโดยตนไม่ทันตั้งตัว พยายามจะลวนลามตน ซึ่งเมื่อตนเองได้ปัดมือผู้ก่อเหตุออกหลุด และรีบวิ่งหนีออกจากร้าน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินไปก่อเหตุแบบนี้อีกกับหญิงหลายคน อีกประมาณ 3 คน
รวมไปถึง ยาย วัย 85 ปี ที่ถูกชายอายุ 45 ปี ได้บุกเข้าไปในบ้านก่อเหตุหวังจะข่มขืน แต่ยายได้ขัดขืน ร้องตระโกนให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงออกมาช่วยเหลือได้ทัน และชายที่ก่อเหตุยังได้ใช้กำลังทำร้ายร่างกายยายจนได้รับบาดเจ็บหนัก ญาติได้นำตัวยาย วัย 85 ปี ส่งรักษาตัว ที่ รพ.ภูเขียว
ก่อนที่ยายผู้เสียหายรายนี้ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูเขียว ซึ่งยาย วัย 85 ปี เล่าให้ฟ้งว่า ตนได้ไปวัดวันพระเป็นประจำหลังจากล้างจานทำความสะอาดที่วัดเสร็จวันพระ ตนได้กลับมาที่บ้านจะกินยาเพราะตนมีโรคประจำตัว กินยาเสร็จกำลังจะนอนพักผ่อน จู่ๆชายรายนี้ ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาทางหน้าบ้านจากไหนก็ไม่รู้โดยที่ตนยังไม่ได้ตั้งตัว เดินเข้ามาปลุกปล้ำ ถอดผ้าถุงตนออก และผู้ก่อเหตุได้ถอดกางเกงของตัวเองออกหวังจะข่มขืน แต่ตนขัดขืน และร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายยายทั้งใช้เข่ากดขายายไว้ ใช้มือชกท้องยายถึง 3 ครั้ง ก่อนได้มีชาวบ้านข้างกันได้ยินเสียงร้อง จึงได้เข้าช่วยเหลือตนไว้ได้ทัน และอยากให้คนก่อเหตุได้ถูกลงโทษตามกฎหมายด้วย ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้นับว่าอุกอาจมาก
โดยหลังเกิดเหตุญาติยาย อายุ 85 ปี ที่เกือบถูกข่มขืน และถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ภูเขียวแล้ว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุได้แล้ว ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ภูเขียว แต่ไม่สามารถสอบสวนให้ปากคำได้ผู้ต้องหายังพูดคุยไม่รู้เรื่องได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ให้ช่วยรักษาอาการทางจิตเวชก่อน ซึ่งในเบื้องต้น พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทีปัญญา สารวัตรสืบสวน สภ.ภูเขียว ได้ลงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อตั้งข้อหากับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมาย หลังผู้ก่อเหตุเข้ารักษาตัวมีอาการดีขึ้นก่อน ซึ่งถือเป็นบุคคลอันตรายเพื่อคุมขังตัวตามกฏหมายในเรือนจำและให้อยู่ความดูแลของแพทย์และเจ้าหน้าที่ให้ได้กินยาผู้ป่วยจิตในครั้งนี้ต่อเนื่องเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: