ชัยภูมิ – ขโมยไปเกลี้ยงรวม 2 ถาดใหญ่กว่า 30 ต้น หนุ่มชัยภูมิ เจ้าของต้นกระบองเพชรเศร้าถึงจะไม่มีราคาแต่มีคุณคุณค่าทางจิตใจ เปิดวงจรปิดจับภาพหัวขโมยแสบขณะก่อเหตุไว้ได้ ขอรีบนำมาคืนก่อนถูกจับเสียอนาคต!
( 28 มิ.ย.66 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ทีมข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุมีหัวขโมย ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านเอทูไบค์ เลขที่ 9/5 ขุมชนหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ริมถนนสายชัยภูมิ 201ซึ่งมีหัวขโมยรายนี้แอบมาขโมยต้นกระบองเพชร ที่เจ้าของร้านดังกล่าวปลูกเลี้ยงไว้ในกระถางต้นไม้หน้าร้านและหน้าบ้าน
ที่มีภาพกล้องวงจรปิดหน้าร้านจับภาพมีรถจักรยานยนต์ ขี่เข้ามาก่อเหตุเมื่อกลางดึกคืนที่ 19 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา หลังเจ้าของร้านมาเปิดร้านพบว่าต้นกระบองเพชรที่ปลูกไว้ในกระถางกว่า 30 ต้น ที่ปลูกวางไว้ใน 2 ถาดใหญ่ที่หน้าร้านได้ถูกขโมยไปแล้ว
จึงนำภาพหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งเวลาก็ผ่านมานานนับกว่าสัปดาห์ก็ยังไม่สามารถจับตัวหัวขโมยรายนี้ได้ จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยด้วยอีกทาง ที่หัวขโมยรายนี้ขโมยแม้กระต้นกระบองเพชร ที่ในช่วงนี้ เป็นช่วงขาลงราคา ขายคงไม่ได้ราคาเท่าไรนัก แต่เป็นของที่ปลูกไว้มีคุณค่าทางจิตใจมาก ซึ่งลงมือปลูกต้นกระบองเพชรมานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ละวันได้ดูแลเป็นอย่างดี
โดย นายดบัสวิน ชินอานุภาพ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านผู้เสียหาย ได้นำกล้องวงจรปิดหน้าร้านและร้านข้างเคียงจับภาพหัวขโมยรายนี้ไว้ได้ ซึ่งมีรูปพรรณร่างสันทัด ไม่ทราบเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน เวลาประมาณ 02.40น.วันที่ 19 มิ.ย.2566 และเดินลงจากรถ จยย.เดินไปหยิบขโมยต้นกระบองเพชรที่ปลูกไว้หน้าร้านรวม 2 ถาดใหญ่ และเดินถือไปขึ้นรถหลบหนีไปอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
ซึ่งคนที่มาขโมยหากอยากได้ต้นไม้กระบองเพชรไปปลูกก็ให้มาขอกันดี ๆ อย่ามาขโมยแบบนี้ เพราะต้นไม้ แม้ไม่มีค่ามากนัก แต่มีคุณค่าทางจิตใจ ต้นกระบองเพชรที่เลี้ยงมาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ช่วงนั้นราคาแพง หมดเงินซื้อต้นกระบองเพชรไปกว่า 2 หมื่นบาท ประมาณ 30 ต้น ที่ผ่านมาปลูกเลี้ยงต้นกระบองเพชรไว้หน้าบ้านไม่เคยหาย และช่วงนี้ยิ่งไม่มีราคาต้นกระบองเพชรเป็นช่วงขาลง หากนำไปขายคงไม่ได้ราคาไม่เกินพันกว่าบาทเท่านั้น แต่ต้นกระบองเพชรที่ปลูกไว้มีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า กว่าเราจะเห็นพัฒนาการการเจริญเติบโตของต้นกระบองเพชร โตช้ามาก อยากฝากบอกคนขโมยกระบองเพชรไป หากนำมาคืนได้ขอให้นำมาคืนจะดีกว่า แต่ถ้าถูกจับถูกดำเนินคดีขึ้นมาเสียอนาคตจะได้ไม่คุ้มเสียไปด้วยอีก
