ตรัง โค่นยางปลูกสวนสมรม-กระท้อน 4 สายพันธุ์ กระท้อนปุยฝ้ายไซต์ยักษ์ ลูกละ 1.2 กก.ของครูวัยเกษียณ ลูกค้าติดใจลุยซื้อถึงสวน พร้อมได้เรียนรู้ในเรื่องของเกษตรผสมผสานและได้รู้ว่ากระท้อนมีหลายสายพันธุ์รสชาติแตกต่างกันไป
วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ที่สวนสุวรรณศิลป์ ม.2 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายไพรัตน์ และนางมยุราหรือครูรา สุวรรณศิลป์ อดีตข้าราชการครู สองสามีภรรยา ใช้พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มาทำผลไม้ผสมผสานจากเดิมพื้นที่ตรงนี้เคยปลูกยางพารามาก่อน ก็ได้โค่นยางพาราและหันมาปลูกลองกอง ส้มโอ กระท้อน สะตอ ขนุน จำปาดะไม่มีเมล็ด ชมพู่ทับทิมจันทร์
สำหรับช่วงนี้ในสวนเป็นฤดูของกระท้อนให้ผลผลิตมากซึ่งกระท้อนที่เราปลูกมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ได้แก่ กระท้อนสายพันธุ์เขียวหวาน จะมีรสชาติหวานมาก, สายพันธุ์อีล่า จะแบ่งเป็นไซส์ M 6-8 ลูก ได้น้ำหนักถึง 2 กิโลกรัม หากเป็นไซส์ L จะได้ประมาณ 5 ลูก 2 กิโลกรัม ให้ความหวานน้อยกว่าสายพันธุ์ปุยฝ้าย โดยเราจะขายกิโลกรัมละ 50 บาท หากเป็นไซส์ XL 4 ลูกตก ลูกละครึ่งกิโลกรัม จะได้กิโลกรัมละ 60 บาท หากเป็นลูกใหญ่ขนาด 6 ขีดขึ้นไป กิโลกรัมละ 70 บาท จะได้ประมาณ 3 ลูก และยังมีสายพันธุ์ปุยฝ้าย โตเต็มที่ 1 ลูกตกถึง 1.2 กิโลกรัม ใหญ่สุดจะมีรสชาติหวานมาก ๆ นิ่มมาก สายพันธุ์ทองอุไร มีรสชาติหวานอ่อน ลูกใหญ่สุดโตเต็มที่ 7 ขีด
โดยเราจัดส่งขายทั่วประเทศ ไกลสุดจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเลย อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ตอนนี้ผลผลิตออกไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า แต่สามารถทยอยส่งให้ได้เรื่อย ๆ
สวนเราเน้นปลอดสารเคมี 100% สำหรับกระท้อนจะมีไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ วิธีการดูแลลูกกระท้อนจะใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแบบเก่าโดยครูไพรัชจะใช้กระป๋องที่ใส่พอดีกับลูกกระท้อนและใช้หนังยางไปพร้อมกับถุงก็ยื่นไม้ไปด้านบนด้วยการห่อลูกกระท้อนทีละลูกเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงมาเจาะได้
จากการขายกระท้อนนี้เราขายไปแล้ว 10,000 ลูก 25 กิโลกรัมทำให้เรามีรายได้เสริม ต่อปีถึง 1 แสนบาท เลยทีเดียว ยังไม่รวมผลผลิตของพืชอื่น ๆ ที่กำลังทยอยออกผลกัน หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ 0895925416 ทั้งนี้ส่วนของเราจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม และมาชิมกระท้อนถึงภายในสวนเลยทีเดียว
ด้านลูกค้าบอกว่า ได้เรียนรู้ในเรื่องของเกษตรผสมผสานและได้รู้ว่ากระท้อนมีหลายสายพันธุ์รสชาติแตกต่างกันไป
