กรุงเทพฯ – ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เลือก นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2
วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 นัดแรก เลือก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แบบไร้คู่แข่ง
ต่อมา เป็นการเสนอชื่อ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ซึ่งมีผู้ได้รับการเสนอชื่อ 2 คน คือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่เสนอโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เสนอโดย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ
จึงต้องมีการลงคะแนนลับ ผลปรากฏว่า
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียง 312 เสียง
ส่วนนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 105 เสียง
งดออกเสียง 77 เสียง บัตรเสีย 2 ใบ รวมมีผู้ลงคะแนน 496 คน
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สองนั้น มีการเสนอชื่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เพียงคนเดียว จึงถือว่าที่ประชุมลงมติเลือก นายพิเชษฐ์ เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง
ภายหลังเสร็จสิ้น การเลือกประธานและรองประธานสภาฯ ทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานที่ประชุม สั่งปิดการประชุม เวลา 13.52 นาที
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการลงมติเลือกรองประธานคนที่หนึ่ง ประธานที่ประชุมชั่วคราว คือ พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ ได้ให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 2 คน แสดงวิสัยทัศน์
นายปดิพัทธ์ แสดงวิสัยทัศน์สรุปว่า มีความตั้งใจจะทำให้สภาฯ กลับมามีตัวตนและศักดิ์ศรี ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร จะทำให้เป็น Smart Parliament ส่งเสริมงานนิติบัญญัติให้เป็นสากล ต้องยกระดับฝ่ายนิติบัญญัติ และอยากเสนอให้มีการตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติ ในการผ่านร่างกฎหมายอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถติดตามกฎหมายได้
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิด จะเขียนกฎหมายที่ผ่านวาระสาม เป็นภาษาอังกฤษด้วย อยากเห็นประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ใช่เพียงแค่เลือกตัวแทนเข้าสภาฯ แต่สภาฯจะต้องรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน และเต็มที่ด้วย จะใช้ 4 ปีที่มี วางตัวเป็นกลาง ทำระบบราชการที่ทันสมัย บริการสมาชิกทุกท่านด้วยความเท่าเทียม ปราศจากอคติ และทำให้สภาฯ มีความสง่างาม
ด้านนายวิทยา แสดงวิสัยทัศน์สรุปว่า หัวใจสำคัญของการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คือ ความเป็นกลาง จะรักษาองค์กรนิติบัญญัติเป็นองค์กรทรงเกียรติ์และคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ มีบางยุคบางสมัย ประชาชนเบื่อหน่าย รำคาญ สภาฯ ไร้ระเบียบวินัย เราต้องช่วยกันทำให้สภาฯ มีเกียรติภูมิ ขอให้มั่นใจว่าจะวางตัวเป็นกลาง รักษาเกียรติภูมิและหน้าตาของสภานิติบัญญัติ ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ ก่อนลงมติด้วยการลงคะแนนลับในคูหา ผ่านการเขียนชื่อผู้ประสงค์จะเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ส.ส.หลายคน ได้ขอหารือต่อประธานการประชุมฯ ว่าจะเขียนชื่ออย่างเดียว หรือเขียนทั้งชื่อและนามสกุล หากเขียนชื่อผิดจะถือว่าเป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย ใช้เวลาหารือนานกว่า 20 นาที
สุดท้าย พล.ต.ท.วิโรจน์ วินิจฉัยให้ ส.ส.เขียนชื่อบุคคลที่เหมาะสม เป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เพียงอย่างเดียว ลงในบัตร แล้วหย่อนลงกล่องที่เตรียมไว้ โดยเลขาธิการสภาฯ เรียก ส.ส.ลงคะแนน ตามลำดับอักษร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: