กรุงเทพฯ – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้ ผลโหวตประธานและรองประธานสภาฯ สะท้อนเอกภาพ 8 พรรคร่วม นิมิตหมายดีจัดตั้งรัฐบาล ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ย้ำ ทำงานเป็นกลาง ยึดเป้าหมาย-นโยบายเป็นตัวตั้ง
วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า ผลการลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ แม้เป็นแบบลับ แต่ยืนยันได้ว่า เอกภาพของทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลนั้นเต็มร้อย โดยกรณีรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่มีการโหวตแข่ง และนายปดิพัทธ์ได้ 312 เสียง ทั้งที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ชั่วคราว งดออกเสียง และมีสมาชิกพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เข้าประชุมจำนวนหนึ่ง แต่ตัวเลขที่ออกมาแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และสะท้อนว่าสิ่งที่แถลงวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนแปลงสภาฯ ได้รับการตอบรับจาก ส.ส.ฝ่ายเสียงข้างน้อยจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีมากในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
นายพิธา ยืนยันว่า ได้พูดคุยกับ แกนนำพรรคก้าวไกล ประธานและรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ว่าการมีทั้ง 3 คนเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการผลักดันกฎหมายสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ แรงงาน กลุ่มชาติพันธุ์ สุราก้าวหน้า สมรสเท่าเทียม รวมถึงกฎหมายสำคัญตามข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมืองและการปฏิรูปกองทัพ ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมร่างกฎหมายไว้แล้ว ส่วนรายละเอียดต้องพูดกันในสภาฯ
‘ปดิพัทธ์’ ลาออก กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เพื่อความเป็นกลางในการทำงาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ระบุว่า ผลที่ออกมาไม่ใช่ว่าใครยอมใคร เพราะผ่านการเจรจาอย่างดีที่สุด อยู่ในการจับตาวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น ไม่ได้คิดว่าใครจะดำรงตำแหน่งอะไร แต่นำเป้าหมายและนโยบายเป็นตัวตั้ง เช่นเดียวกับการจัดตั้งรัฐบาล การฟอร์มทีมนิติบัญญัติก็จะมีเอกภาพเช่นกัน
นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า รองประธานสภาฯ เป็นบทบาทใหม่ที่ท้าทายมาก ตอนนี้ ได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคแล้ว จะเริ่มต้นทำงานอย่างเป็นกลางตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอ เพื่อพัฒนาการทำงานของสภาฯ ทำให้สื่อมวลชนทำงานได้ดีขึ้น และประชาชนเข้ามาใช้งานสภาฯ ได้อย่างปลอดภัย รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและรู้สึกถึงอำนาจที่มี หลังจากนี้ คณะทำงานประธานสภาฯ จะมีข้อตกลงว่า จะดำเนินการอย่างไร ให้สภาฯ ของประเทศไทย ก้าวหน้า โปร่งใส และเป็นของประชาชน
ข่าวน่าสนใจ:
“ผมได้คุยกับคุณวันนอร์ เห็นตรงกันหลายมิติ จะผสมผสานระหว่างประสบการณ์กับความรู้ความตั้งใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นส่วนผสมที่ดีมากในการทำให้สภาฯ ก้าวหน้า โดยจะมีการหารือเพื่อจัดสรรหน้าที่ หลังการโปรดเกล้าฯ วาระที่ทำได้โดยด่วน คือ การหารือกระบวนการพิจารณากฎหมายต่าง ๆ ว่าสัดส่วนเวลาจะเป็นอย่างไร” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ส่วนการโหวตกฎหมายสมรสเท่าเทียมนั้น นายปดิพัทธ์ เปิดเผยว่า ในฐานะ ส.ส. จะโหวตเห็นชอบในวาระที่ 2 และ 3 แน่นอน แต่ในฐานะรองประธานสภาฯ เมื่อมีการบรรจุญัตติ ถ้าผ่านขั้นตอนการเสนออย่างถูกต้อง เนื้อหาไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จะสามารถบรรจุได้ทุกอย่าง และใช้เวทีสภาฯ พิจารณา
หลังแถลงข่าว นายพิธา ได้ออกไปพบปะและขอบคุณประชาชนที่มารวมตัวให้กำลังใจ บริเวณด้านหน้ารัฐสภา พร้อมถ่ายภาพ และมอบลายเซ็น ขณะที่ประชาชนผู้สนับสนุน ตะโกนเรียก “นายกฯ ๆ” และร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: