สงขลา-สะเดา รถเก๋งคัมรี่พุ่งชนท้ายรถพ่วง 22 ล้อ เกิดระเบิดไฟลุกท่วม หน้าด่านศุลกากรสะเดา (เก่า ) โชคดีแค่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย พบที่เกิดเหตุเป็นบริเวณเกาะกลางถนน มีป้ายห้ามจอดรถและเป็นพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบยังแก้ไขอะไรไม่ได้ ( มีคลิป )
7 ก.ค. 2566 เวลาประมาณ 05.00 น.เกิดเหตุรถยนต์เก๋งโตโยต้ารุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กพ 7012 สงขลา พุ่งชนรถพ่วง 22 ล้อ ซึ่งจอดอยู่บริเวณเกาะกลางถนนกาญจนวนิช ใกล้ด่านศุลกากรสะเดา ( เก่า ) หรือที่ชาวบ้านเรียกด่านพืช ม. 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
ข่าวน่าสนใจ:
ส่งผลให้รถยนต์เก๋งคัมรี่เกิดมีการระเบิดไฟลุกท่วมช่วงด้านหน้ารถ คนขับวิ่งหนีตายออกมาได้หวุดหวิด รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่เตรียมจัดร้านขายของบริเวณใกล้เคียง ต่างแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอดห่างออกมา โดยพลเมืองดีได้โทรศัพท์แจ้ง 191 รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ซึ่งไฟได้ลุกท่วมรถคัมรี่อย่างรุนแรง หวั่นเกิดระเบิดซ้ำ โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลสำนักขาม ได้มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมเร่งระดมฉีดน้ำดับไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
พบสภาพรถคัมรี่ด้านหน้าพังยับ และเสียหายจากการถูกไฟไหม้ กระจังหน้าหลุดไปติดอยู่ที่ล้อช่วงกลางรถพ่วง ภายในรถพบถุงลมนิรภัยทำงาน ส่วนรถพ่วงพบที่บริเวณขอบล้อหลังสุดด้านซ้ายมีร่องรอยถูกชน และมีร่องรอยถูกไฟไหม้
นายปรเมศว์ ช่วงวงศ์ไพศาล อายุ 25 ปี บ้านอยู่ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคัมรี่บอกว่า ตนเองขับรถมาจากบ้านมุ่งหน้าไปพื้นที่บ้านด่านนอกเพื่อจะไปหาเพื่อน เมื่อขับมาถึงบริเวณดังกล่าว ไม่เห็นว่ามีรถพ่วงจอดอยู่บริเวณดังกล่าว จึงเกิดชนเข้าอย่างจัง รู้ ๆ มีเสียงระเบิดพร้อมไฟที่ลุกท่วม ตนเองจึงรีบเปิดประตูรถวิ่งหนีตายออกมาได้ทัน พร้อมมีอาการบาดเจ็บจากการถูกกระแทก เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ได้นำส่ง รพ.สะเดา
ด้านนายนภดล ทิพมากุล โชเฟอร์ขับรถพ่วง 22 ล้อ บอกว่าตนเองขับรถบรรทุกแร่ยิปซั่มจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจะนำไปส่งให้กับลูกค้าที่ในประเทศมาเลเซีย มาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถเพื่อลงไปทำเอกสารในการขนส่ง พอกลับมาที่รถก็พบว่ามีเหตุชนเกิดขึ้นแล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ได้แจ้งข้อกล่าวหาจอดรถในที่ห้ามจอด หรือจอดกีดขวางการจราจร ทั้งนี้ต้องรอสอบปากคำคนขับรถยนต์เก๋งคัมรี่ด้วยว่าการขับขี่เข้าข่ายประมาทร่วมหรือไม่
ทั้งนี้ชาวบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า บริเวณที่เกิดเหตุ หรือถนนช่วงด่านพืชมุ่งหน้าด่านพรมแดนสะเดา เกิดอุบัติเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เนื่องจากรถพ่วงหรือรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ยึดแนวเกาะกลางเป็นที่จอดรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ทั้งๆที่มีป้ายห้ามจอดติดอยู่ แต่รถเหล่านี้ก็ไม่สนใจ ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน บาดเจ็บล้มตายมาแล้วหลายราย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังแก้ไขไม่ได้เสียที ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดนี้รถพ่วงจอดอยู่โดยไม่ได้เเสดงสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายอะไร สำหรับไฟกะพริบก็มีการเปิดหลังเกิดเหตุเเล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: