กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี มีมติ ไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะสิ้นสุด วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ให้ใช้มาตรการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพราคา หลังราคาตลาดโลกลด
วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบแนวทางการดำเนินมาตรภาษีสรรพสามิต เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาดีเซล หลังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน จากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2565 ด้วยการออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตรวมท 7 ฉบับ ต้องสูญเสียรายได้ภาษีประมาณ 156,000 ล้านบาท
โดยกฏกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 34) พ.ศ.2566 ปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราภาษีจะกลับสู่ภาวะปกตินั้น
กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน หารือและมีความเห็นร่วมกันว่า การใช้มาตรการทางภาษี เพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หลังจากมาตรการจะสิ้นสุด ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการดำเนินการที่ก่อให้เกิดผลผูกพันรัฐบาลในอนาคต ซึ่งคณะรัฐมนตรีรักษาการไม่อาจกระทำการ อันมีผลสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- "ไทย-ญี่ปุ่น" 70 ปี ของความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (ODA) ในประเทศไทย
- 'ระยอง แฟนซี รัน@บ้านฉาง 2024' จัดขึ้นมุ่งส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ
- 35 ปีแก่งเสือเต้น นักวิชาการยกย่องต้านเขื่อนขนาดใหญ่ด้วยสิทธิชุมชน
- สองวัยรุ่นอดีตนักเรียนอาชีวะถูกคู่อริตามมาดักยิง ต้องบิดมอไซค์หนีตายฝ่าเข้าฝูงชน
ประกอบกับ ปัจจุบัน สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่น ในประเทศ ลดลงตามไปด้วย ดังนั้น จึงเห็นสมควรให้ใช้มาตรการของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีฐานะการเงินดีขึ้นโดยลำดับ ทำหน้าที่ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซล
ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ติดลบอยู่ที่ 52,270 ล้านบาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: