ที่นครนายก จากกรณี นายสมหมาย อ่างแก้วอายุ 63 ปี ผู้ป่วยมะเร็ง ระยะสุดท้าย หายตัวออกจากบ้าน เลขที่ 606/13 ม.2 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.ค. จนมีชาวบ้านมาพบรถจอดทิ้งอยู่บริเวณป่าข้างถนน ที่ ม.2 ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งลูกสาวของผู้สูญหาย ได้ให้ข้อมูลว่า เพิ่งรับตัวคุณพ่อออกจาก รพ. ที่ จ.สระบุรี กลับมาบ้านเมื่อช่วงเช้า ของวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งก่อนออกจาก รพ. หมอได้ฉีดยามอร์ฟีนเพื่อระงับอาการปวดให้คุณพ่อมา 2 เข็ม ซึ่งระหว่างทางกลับบ้าน คุณพ่อได้มีอาการเบลอและหลอน พูดตลอดเวลาว่าจะมีคนมาฆ่าตน ซึ่งพอกลับมาถึงบ้าน คุณพ่อก็ได้นอนหลับ และครอบครัวก็แยกย้ายกันนอนพักผ่อน เนื่องจากเฝ้าคุณพ่อที่ รพ. มาทั้งคืน
ต่อมาช่วงบ่ายในวันเดียวกัน พ่อได้ขับรถยนต์เก๋ง นิสสัน สีบอนทอง หมายเลขทะเบียน กค 9274 ลพบุรี หายตัวไป ซึ่งทางครอบครัวได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.หน้าพระลาน จ.สระบุรี จนเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ได้รับแจ้งจาก สภ.ปากพลี จ.นครนายก ว่าพบรถจอดทิ้งอยู่ในป่าข้างทางแต่ไม่พบตัวคนขับ ซึ่งทางครอบครัวได้เดินทางมาที่จุดพบรถ และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ค้นหาตัวคุณพ่อ แต่ก็ไม่พบตัวและไม่มีเบาะแสใดๆ จึงได้แจ้งให้สื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอข่าวตามหาตัวคุณพ่อ เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และไม่ได้นำเงินติดตัวออกมา หากไม่ได้กินข้าว และยา เกรงว่าจะได้รับอันตราย
คืบหน้าล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (13 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพลี ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าพบศพ บริเวณ ทุ่งนา หมู่บ้านจิกสุง ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณจุดพบศพ บริเวณทุ่งนา ใกล้กับบ่อน้ำ ซึ่งจากสภาพศพ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ซึ่งสภาพศพไหม้เกรียมและขึ้นอืด มีหนอนขึ้นทั่วร่างกาย ไม่สามารถจำใบหน้าได้ เมื่อตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบเสื้อลายสก็อตสีแดง ซึ่งลักษณะตรงกับ นายสมหมาย อ่างแก้ว ที่กำลังค้นหาตัวอยู่ และกางเกงก็สีกลักษณะตรงกันกับที่ญาติได้แจ้งหายเอาไว้ จึงแน่ใจว่าเป็นผู้ที่สูญหาย ที่กำลังติดตามหาตัวอยู่ จึงได้ถ่ายภาพส่งให้ทางครอบครัวของ นายสมหมายฯ ดู ว่าใช่หรือไม่ ซึ่งทางครอบครัวได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ใช่ตัวคุณพ่อ ที่กำลังตามหาตัวอยู่ ซึ่งจุดที่พบศพ นั้น ห่างจากจุดที่ พบรถยนต์จอดทิ้ง ประมาณ 2 กม. ซึ่งต้องเข้าซอยลูกรังที่ติดกับถนนที่พบรถไปประมาณ 1 กม. ซึ่งมีชาวบ้านขี่รถ จยย. ผ่านจุดพบศพ เพื่อที่จะไปเลี้ยงควาย ระหว่างขี่ จยย. ผ่าน ได้เห็นเสื้อลายสก็อตสีแดง วางอยู่ จึงเอ๊ะใจ และได้วนรถกลับมาดู จึงได้พบว่ามีศพนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ๆ กับกองเสื้อ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ให้เข้ามาตรวจสอบ
ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบบริเวณจุดพบศพอยู่นั้น นายธนกร ผันเจริญ อายุ 24 ปี ได้แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคนพา นายสมหมาย ฯ มาส่งไว้บริเวณหน้าปากทางที่พบศพ ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็น เวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งตนนั้นได้กลับจากทำงานมา และได้ขี่ จยย. ผ่าน จุดที่รถ นายสมหมายฯ จอดอยู่ ซึ่งแกได้เปิดประตูรถขวางทาง ทำให้รถ จยย. ตนผ่านได้ ตนจึงได้สอบถามว่ารถเป็นอะไร ซึ่งนายสมหมายฯ ได้บอกตนว่า ให้ไปส่งอาบน้ำหน่อยที่วัด ตนจึงได้ พามาส่งที่วัดหนองบัวขอน ซึ่งห่างจากจุด ที่รถจอดประมาณ 1 กม. แต่เมื่อมาถึงวัด ตนก็ถามนายสมหมายฯ อีกครั้งว่าลุงจะไปไหนกันแน่ ซึ่งนายสมหมายฯ ได้บอกว่าจะไปบ้านเพื่อน มีเพื่อนเป็นสัปเหร่อแถวนี้ ซึ่งจนก็จะพานายสมหมายไปส่งที่บ้านเพื่อนของแก แต่เมื่อออกจากวัดมาไม่ไกล ได้เจอศาลาข้างถนน นายสมหมายฯ จึงบอกให้ตนจอดรถ แล้วบอกว่าให้ส่งแกไว้ที่ศาลา เดี๋ยวจะเดินต่อไปบ้านเพื่อนเอง ตนก็ได้ส่งแกลงรถ และได้ขี่ จยย. วนกลับไปถ่ายรูปรถ แกที่จอดทิ้งเอาไว้เพื่อนำไปแจ้งผู้ใหญ่ในพื้นที่แถวนั้น เนื่องจากแกได้เปิดรถทิ้งเอาไว้ ซึ่งศาลาที่ได้ส่งนายสมหมายไว้ อยู่บริเวณหน้าปากทาง ที่เข้ามาจุดที่พบศพ ซึ่งเป็นถนนดินลูกรัง เข้าทุ่งนา ซึ่งจากศาลาเข้ามาจุดที่พบศพนั้น ระยะทางกว่า 1 กม.
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจุดพบศพ ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงได้ส่งศพ นายสมหมายฯ ไปผ่าชันสูตร เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ที่ รพ.มศว. อ.องครักษ์ จ.นครนายก ต่อไป
ซึ่งครอบครัวนายสมหมายฯ ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ปากพลี และได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต ของนายสมหมายฯ เนื่องจากทราบดีว่ามีอาการป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ ซึ่งมีอาการค่อนข้างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ส่งศพไปชันสูตร ตามขั้นตอน ก่อนจะเดินทางมาทำพิธีอันเชิญวิณญาณ ที่จุดพบศพ และรับศพ นายสมหมายฯ เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ในวันพรุ่งนี้.
