กรุงเทพฯ : นักกฎหมาย – อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงเตือนทัวร์ส้ม การเอาทัวร์ไปลง ถือเป็นการให้ร้าย ระรานผู้อื่นทางไซเบอร์ (Cyberbully) เสี่ยงเข้าซังเต -โดนปรับ วันนี้อบอุ่นในโลกออนไลน์ วันหน้าเดียวดายหน้าบัลลังก์
จากกรณีที่มีกลุ่มผู้นิยมพรรคการเมืองหนึ่ง เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างก้าวร้าว ใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชังหรือ hate speech โดยชักชวนกันเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมากในพื้นที่ของผู้ที่มีความเห็นต่างในลักษณะที่เรียกว่า “ทัวร์ลง” และใช้ถ้อยคำข่มขู่ คุกคาม ด้อยค่า ดูถูกเหยียดหยามเพื่อให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย อับอาย หรือที่เรียกว่าการบุลลี่ หรือการระรานทางไซเบอร์ (Cyberbully) นั้น
นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย อดีตผู้สมัคร สส กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ อดีตที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อดีตอนุกรรมการด้านกฎหมาย กสทช. อดีตผู้สมัครเข้ารับการสรรหา กสทช. ที่ปรึกษากฎหมายราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ และอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นว่า การกระทำดังกล่าว กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้อย่างชัดแจ้ง ได้แก่ การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม และทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญา มาตรา 326 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการหมิ่นประมาทโดยเผยแพร่ต่อสาธารณะ จะเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท
หากเป็นการแสดงความเห็นในลักษณะข่มขู่ทำให้เจ้าของบัญชีเกิดความกลัว จะเข้าองค์ประกอบความผิดตาม ป.อาญามาตรา 392 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะดูหมิ่นผู้อื่น และเป็นการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ จะเป็นความผิดฐานดูหมิ่นด้วยการโฆษณาตาม ป.อาญา มาตรา 393 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพตัดต่อของผู้อื่นในลักษณะที่จะทำให้บุคคลนั้นได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา16 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
อาจารย์อุ๋ย ยังฝากบอกถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกระรานทางไซเบอร์ ให้รวบรวมพยานหลักฐาน ได้แก่ บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่กระทำความผิด ข้อมูลหรือข้อความที่ได้รับความเสียหาย และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และฝากเตือนพี่น้องประชาชนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายให้มีสติ ใช้วิจารณญาณ คิดวิเคราะห์แยกแยะ ก่อนแสดงความคิดเห็นที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย เนื่องจากสุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี ดังที่มีผู้เคยกล่าวไว้ว่า
“วันนี้อบอุ่นในโลกออนไลน์ วันหน้าเดียวดายหน้าบัลลังก์” นอกจากนี้ การเคารพและให้เกียรติผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีความเห็นต่าง ก็ถือเป็นหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศเจริญแล้วไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ให้ความสำคัญกับเรื่อง Cyberbully มาก
