X

เปิดตัวรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ไทย-กัมพูชา เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและเครือข่ายโลจิสติกส์ เชื่อมโยงกลุ่มภูมิภาค จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ทางการไทยและกัมพูชาร่วมกันเปิดตัวขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเที่ยวทดสอบ ไทย-กัมพูชา ขบวนปฐมฤกษ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและเครือข่ายโลจิสติกส์ เชื่อมโยงกลุ่มภูมิภาคอาเซียนและจีน ที่บริเวณสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ไปยังฝั่งปอยเปต และกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ นายชาญศักดิ์ ชื่นชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ปตท. ,ดร.ทยากร จันทรางศุ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง ,นายชวลิต พิมพ์โพธิ์กลาง รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการ ฝ่ายบริการสินค้า การรถไฟแห่งประเทศไทย ,พลตำรวจตรี ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ,Mr. John Guiry, Chief Executive Officer, Royal Railway Public Company Limited. ,Mr. Nguon Kosal, Director of Poipet Customs and Excise Office. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและกัมพูชา ร่วมกันเปิดเปิดตัวรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ ไทย-กัมพูชา ที่จะเดินทางจากสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นหมุดหมายหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและเครือข่ายโลจิสติกส์ เชื่อมโยงกลุ่มภูมิภาคอาเซียนและจีน ตลอดทั้งต้นทางและปลายทาง ด้วยรูปแบบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรวมทั้งพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการอำนวยความสะดวกทางการค้าโลก


ทั้งนี้ ผู้สื่อขาวรายงานว่า การเปิดขบวนรถไฟปฐมฤกษ์ดังกล่าว มีบริษัทโกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด หรือ GML ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มเครือบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบ และโลจิสติกส์ แพลตฟอร์มครบวงจร โดยมีพันธกิจที่จะผลักดันการบริการขนส่งหลายรูปแบบ โดยใช้ระบบรางของประเทศไทยเป็นแกน ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้แนวทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะได้ร่วมผนึกกำลังกับภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูซา ซึ่งการเปิดตัวรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ ไทย -กัมพูชา ครั้งนี้ จึงถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ไทยและกัมพูชา จะมีทางเลือกการขนส่งในระบบโลจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา และต่อยอดด้านการค้าและการขนส่งสินค้าผ่านระบบรางระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา และภูมิภาคอาเซียนให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น


นายชาญศักดิ์ ชื่นชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ปตท. กล่าวว่า การเปิดขบวนรถไฟครั้งนี้ถือว่าเป็นทางการ ซึ่งจะได้รับประโยชน์ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ซึ่งเราได้เชื่อมระบบรางของไทยไปที่ลาวและจีนแล้ว ปัจจุบันได้มีการเชื่อมการขนส่งไปที่จีนหลายขบวน เชื่อว่าการทำงานในครั้งนี้ ต้องขอบคุณตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งไทยและกัมพูชา เชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จให้ 2 ประเทศ มีความเจริญก้าวหน้า หลังจากระบบรางและการขนส่งทางรางสามารถเชื่อมโยงกลุ่มภูมิภาคได้ทั้งหมด


ทางด้าน นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณตัวแทนจากภาคเอกชนและประเทศกัมพูชา ซึ่งวันนี้ถือว่า เป็นการเดินรถไฟทดสอบเสมือนจริง ซึ่งหลังจากนี้ถ้าการขนส่งสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา จนถึงกรุงพนมเปญ มีปัญหาหรืออุปสรรคใด มีอะไรที่ต้องปรับต้องแก้บ้าง เราก็จะมาพูดคุยกัน ซึ่งในนามของ จ.สระแก้ว พร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมให้ทุกหน่วยงานได้พูดคุยกัน เพื่อให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ สามารถประสานแจ้งมาได้เลยว่า ต้องการจะประชุมที่ไหน เมื่อไหร่ และให้เชิญใครบ้าง ทางจังหวัดพร้อมเป็นเจ้าภาพให้ เพื่อให้มีการพูดคุยให้จบ โดยมีหน่วยงานและส่วนที่เกี่ยวข้องทุกส่วนเข้าร่วม ทั้งไทยและกัมพูชา ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้มาทำให้ความหวังของคนสระแก้วใกล้จะเป็นความจริง ซึ่งคงอีกไม่นานเกินรอ หลังจากนายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เดินทางมาเปิดการเดินรถไฟร่วมกัน เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา


——————————

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"