อำเภอแวงใหญ่ร่วมกับทุกภาคส่วนปลูกป่าดอกกระเจียว 5,000 ต้น ในโบราณสถานแหล่งตัดหินภูคอกม้า แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดขอนแก่น ขณะนี้กำลังออกดอกสวยงามต้อนรับนักท่องเที่ยว
นายกรุง นามสง่า นายอำเภอแวงใหญ่ พร้อมด้วยส่วนราชการ ประชาชน คณะสงฆ์ในพื้นที่ ร่วมพิธีเปิดเทศกาลเปิดป่าดอกกระเจียว ที่โบราณสถานแหล่งตัดหินภูคอกม้า อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดขอนแก่น โดยกิจกรรมมีการปล่อยพันธุ์แย้ จำนวน 46 ตัว ในโอกาสครบรอบ 46 ปี อำเภอแวงใหญ่ การปลูกดอกกระเจียว และการท่องเที่ยวชมความสวยงามของทุ่งกระเจียว เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชมความสวยงามทางธรรมชาติและเก็บภาพความประทับใจ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
นายอำเภอแวงใหญ่กล่าวว่า เมื่อปี 2565 ได้ลงพื้นที่สำรวจร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลโนนทอง และฝ่ายปกครองตำบลโนนทอง กรมศิลปากรจึงขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินเป็นโบราณสถานแหล่งตัดหินภูคอกม้า พื้นที่ 10 ไร่ จึงให้แนวคิดและจุดประกายการพัฒนาพื้นที่ ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นลานหินธรรมชาติที่มีรูปร่างสวยงาม มีคุณค่าและสามารถพัฒนาลานหิน ปลูกดอกกระเจียว เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของบุคคลทั่วไป เมื่อได้รับการพัฒนา และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมจะสามารถสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตำบลโนนทองและอำเภอแวงใหญ่ ได้อีกทางหนึ่ง โดยในระยะแรกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนทองได้จัดงบประมาณสนับสนุนต้นพันธุ์ดอกกระเจียว ร่วมกับส่วนราชการระดับอำเภอ คณะสงฆ์ตำบลโนนทอง ตลอดทั้งพี่น้องประชาชนตำบลโนนทอง เพื่อจัดซื้อต้นพันธุ์ดอกกระเจียวเพื่อ ทดลองปลูกพันธุ์แดงชาโดว์ ประมาณ 1,000 ต้น จากนั้นได้ทำผ้าป่าดอกกระเจียวพร้อมจัดงบประมาณจัดซื้อเพิ่มเติม ทำให้ขณะนี้มีต้นดอกกระเจียวอยู่ราวๆ 5,000 ต้น กำลังออกดอกสวยงามรองรับผู้มาเยือน โดยตั้งเป้าจะปลูกให้เต็มพื้นที่ราวๆ 100,000 ต้น
ทั้งนี้เพื่อร่วมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างองค์กรปกครองสวนท้องถิ่นและท้องที่ ผู้นำชุมชน และประชาชนให้มีส่วนร่วมและรู้สึกหวงแหนตระหนักถึงความสำคัญในการฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ตลอดจนการบำรุงรักษาทรัพยากรป่าไม่ให้ดำรงอยู่เพื่อสร้างความสมดุลทางธรรมชาติเพื่อสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่สร้างโบราณสถานแหล่งตัดหินภูคอกม้าให้เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณสถานให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- สุดภูมิใจ! ยูเนสโกจ่อขึ้นทะเบียนเมนู “ต้มยำกุ้งไทย” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ร้านอาหารดังเมืองตรัง ดัน “กุ้งแม่น้ำตรัง“ ขึ้นโต๊ะเสริฟ…
- "บพท." กระทรวง อว. สร้างโคลนนิ่ง 200 นักจัดการวิจัยเชิงพื้นที่ สานพลังความรู้ฯ
- กาญจนบุรี ต่างด้าวไหลทะลักเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ไม่พ้นสายตาตำรวจถูกรวบ 30 คน เผยเสียค่าเดินทางคนละ 5 พันบาท ส่วนคนขับอาศัยความชำนาญหลบหนีไปได้
- เด็กไทยเจ๋ง คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 พร้อม 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง การแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ 2024 WMTC
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: