สงขลา-สะเดา สองผัวเมียเจ้าของโกดังพลุ ที่เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ตลาดมูโนะ จังหวัดนราธิวาส ติดต่อเข้ามอบตัวแล้วช่วงบ่ายวันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรสะเดา จังหวัดสงขลา โดยเดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซียผ่านด่านพรมแดนสะเดา
5 ส.ค.2566 ความเคลื่อนไหวกรณีเหตุโกดังเก็บพลุระเบิดในพื้นที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จนมีผู้สูญเสียชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายการข่าวระบุว่าสองผัวเมียเจ้าของโกดัง ได้หลบหนีความผิดเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดมีรายงานว่าเวลา 13.30 น.วันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของไทย ได้รับการประสานจากทนายความของนายสมปอง ณ พล หรือเสี่ยไหว และน.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ หรือเจ๊หลิน สองสามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุระเบิด เพื่อติดต่อขอมอบตัวกับทางการไทย โดยจะเดินทางมาจากประเทศมาเลเซียด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา
ซึ่งมีหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง อาทิเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ทหาร เจ้าหน้าที่ตม. สงขลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มูโนะ เดินทางไปรับมอบตัวและนำตัวทั้งสองคนเดินทางมาที่ สภ.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อทำบันทึกการจับกุม และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยพบว่าทั้งคู่เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ ๖๙๒-๖๙๓ / ๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๖
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสองสามีภรรยาได้ถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวน บริเวณห้อง ศปก.สภ.สะเดา โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าว ซึ่งมาจากหลายสำนักเข้าไปสังเกตการณ์หรือบันทึกภาพแต่อย่างใด ก่อนที่จะนำตัวทั้งคู่ลงไปขึ้นรถยนต์ยี่ห้อ ซีอาร์วีสีขาว ของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำตัวส่งต่อ สภ.มูโนะ จ.นราธิวาส และมีรายงานว่าก่อนที่จะนำตัวทั้งคู่ลงมาจากห้องสอบสวน ได้มีการหลอกล่อผู้สื่อข่าวซึ่งปักหลักนำเสนอข่าวอยู่เกือบ 5 ชั่วโมง และรอบันทึกภาพอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สภ.
สำหรับสองสามีภรรยามีรายงานว่า ถูกตั้งข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐาน กระทำการโดยประมาท และกระทำการนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส, และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำ ,สั่งนำเข้า,หรือค้าดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันฝ่าในคำสั่งเจ้าพนักงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และร่วมกันก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: